ดูแบบคำตอบเดียว
  #88  
เก่า 13-02-2011, 21:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จักรวาลในวิทยาศาสตร์และในพุทธศาสนาต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน เพียงแต่วิทยาศาสตร์รู้ไม่เท่าพระพุทธศาสนา จักรวาลทางวิทยาศาสตร์ก็คือหมู่ดาวหมู่หนึ่ง ที่มีดาวฤกษ์คือดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง จักรวาลของพระพุทธศาสนาก็ลักษณะเดียวกัน แต่พระพุทธเจ้าท่านรู้ว่าจักรวาลไหนมีมนุษย์อยู่บ้าง และพระองค์ท่านหรือพระอรหันต์ก็เสด็จไปโปรดเขาเป็นประจำ

แต่ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ แค่ดาวพฤหัสกว่าเขาจะส่งยานเข้าไปในบริเวณที่สามารถสำรวจได้ใกล้เคียง ก็ใช้เวลาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีทั้งหมดแสนโกฏิจักรวาล ไม่น่าเชื่อว่าเยอะขนาดนั้น สุดชายขอบจักรวาลจึงเริ่มเป็นเขตของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

มีพระสูตรหนึ่ง กล่าวถึงฤๅษีองค์หนึ่ง ท่านอยากจะรู้ว่าจักรวาลนี้กว้างใหญ่เท่าไร ท่านจึงใช้อำนาจอภิญญาเริ่มเหาะจากโลกมนุษย์ไปเรื่อย ๆ มุ่งตรงไปอย่างเดียว ปรากฏว่าท่านหมดอายุของความเป็นมนุษย์เสียก่อน ยังเหาะไม่พ้นเขตจักรวาลเลย นั่นขนาดไปด้วยอำนาจอภิญญานะ ท่านก็เล่าให้เป็นอุทาหรณ์ว่า เรื่องพวกนี้สงสัยไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะท่านตายฟรีมาแล้ว..!

ถาม : ตายแล้วไปเป็นพรหมหรือครับ ?
ตอบ : เป็นพรหม เพราะตายด้วยกำลังของอภิญญา จำไม่ผิดน่าจะอยู่ในเทวตาสังยุต ของสังยุตตนิกาย ลองไปหาอ่านดู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2011 เมื่อ 03:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา