ถาม : กรณีที่เราสงสัยในคุณธรรมที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ ถือเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คุณมีสิทธิ์ที่จะสงสัย นี่เป็นตัววิจิกิจฉาในสังโยชน์ ในเมื่อเป็นตัววิจิกิจฉาในสังโยชน์ ก็แปลว่า กิเลสใหญ่ยังคาใจเราอยู่ ถ้าตราบใดที่ยังสงสัย เราก็จะไม่มอบกายถวายชีวิตจริง ๆ ในเมื่อไม่ทุ่มเทมอบกายถวายชีวิต โอกาสที่จะได้ดีก็มีน้อย
ในธรรมบท พระท่านไปฝากตัวกับอาจารย์เพื่อเรียนกรรมฐาน พระอาจารย์ถามว่า มีความตั้งใจแค่ไหน ? ท่านบอกว่า ถ้าอาจารย์สั่งท่านให้เอาตัวเองฝนกับหินตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงศีรษะ ให้สึกหมดทีละน้อย ๆ จนกระทั่งสิ้นชีวิตไป ท่านก็ยอมทำ ต้องได้ขนาดนั้น
หรือไม่ก็คณะของพระพาหิยะเถระ ที่ท่านทำบันไดปีนขึ้นไปบนยอดเขา แล้วถีบบันไดทิ้ง ตั้งใจว่าถ้าไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เหาะได้ ก็ให้ตายอยู่ข้างบนไปเลย แต่นั่นท่านมั่นใจนะว่าท่านเป็นอรหันต์แล้วท่านจะเหาะได้ เกิดมีใครเป็นสุกขวิปัสสโกก็เป็นเรื่องเลย (หัวเราะ)
นึกถึงฮุ่ยเข่อโจวซือ ท่านเป็นสังฆปรินายกองค์ที่สองของจีน ถัดจากท่านตั๊กม้อ ท่านไปตามตื๊อขอให้ท่านตั๊กม้อสอนวิชาให้ ท่านตั๊กม้อถามว่า มีความตั้งใจจริงแค่ไหน ? ท่านก็เลยชักมีดฟันแขนตัวเองข้างหนึ่งถวายให้เลย ลีลานี้ไม่ต้องห่วง พุทธภูมิเก่าแน่ ๆ สามารถตัดแขนถวายเพื่อบูชาธรรมได้
พวกเราเองลองมาคิดดูว่า ถ้าเป็นเรา เราตัดใจทำเช่นนั้นได้หรือไม่ ? เรามีความจริงจังสักเท่าไร ? เปรียบเทียบโบราณาจารย์กับปัจจุบันของเรา สายหลวงปู่มั่นท่านเดินจงกรมจนกระทั่งทางเดินจงกรมสึกลึกถึงเข่า เราเองเดินสึกไปสักกี่หุน ? การที่ท่านได้ธรรม บรรลุธรรม จนกลายเป็นหลักชัยของคนหมู่มากได้ เพราะท่านทุ่มเทอย่างจริงจัง ทุ่มเทแบบเอาชีวิตเข้าแลก
ถาม : ต้องขอขมาพระรัตนตรัยเฉพาะข้อนี้โดยเฉพาะไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เรา ถ้ารู้สึกว่าเป็นโทษก็ขอขมา แล้วเราก็ตั้งหน้าตั้งตาเร่งรัดปฏิบัติ ไม่ใช่ขอขมาเสร็จก็ปล่อยเอ้อระเหยลอยชายต่อไป
เวลาฟังครูบาอาจารย์ ฟังให้เหมือนกับว่า ท่านสั่งให้เราทำ อย่าไปฟังว่าท่านกำลังสอนเรา ถ้าฟังว่าท่านกำลังสอนเรา บางทีเราก็ไม่คิดที่จะทำ แต่ถ้าเราฟังว่าท่านสั่งให้เราทำ เราจะต้องลงมือทำทันที เพราะฉะนั้น..การฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ ให้ฟังในลักษณะที่ท่านสั่งให้เราทำ แล้วก็เร่งลงมือตั้งหน้าตั้งตาทำ ถ้ามัวแต่ไปฟังว่าท่านสอนเรา สอนดีเหลือเกิน มัวแต่ไปชื่นชมกับคำสอนท่าน ไม่ได้ปฏิบัติอีกต่างหาก คงได้เกิดใหม่กันอีกหลายรอบ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 14-02-2011 เมื่อ 16:33
|