๖.“แล้วจงคิดว่า ท่านแต่ละองค์นั้นตายแล้ว จิตของท่านไปไหนกันบ้าง พ้นทุกข์ถาวรก็มี พ้นทุกข์ชั่วคราวก็มี กลับลงสู่อบายภูมิ ๔ ให้เกิดทุกข์หนักก็มี ให้ธรรมของท่านสอนในธรรมของเรา พิจารณาและถามจิตของตนเองอยู่เนือง ๆ ปรารถนาภพชาติใดเป็นที่ไป ปรารถนาพ้นทุกข์อย่างถาวร ปรารถนาพ้นทุกข์ชั่วคราว ปรารถนากลับมาจุติใหม่ให้เกิดทุกข์ หรือปรารถนาอบายภูมิ ๔ เป็นที่ไป
ท่านทั้งหลายเป็นครู เป็นบทเรียนสอนเรา สอนธรรมหรือกรรมอันเป็นการกระทำ อันเกิดจากกาย วาจา ใจ ของตนเองเป็นที่ตั้ง สอนให้รู้ว่าธรรมที่เบียดเบียนทำให้ทุกข์ในสถานไหนบ้าง ธรรมที่ไม่เบียดเบียนทำให้สุขในสถานไหนบ้าง”
๗. “พวกเจ้ายังเป็นเสขะบุคคลอยู่ (บุคคลที่ยังต้องตัดกิเลสอยู่) ศึกษาจุดนี้ให้ดี แม้แต่พระตถาคตเจ้าทั้งหลายก็เป็นครู
ร่างกายของพระตถาคตเจ้าพ้นโลกไม่ได้ ในที่สุดก็ดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพาน แต่จิตของพระตถาคตเจ้าสอนธรรมพ้นโลก ผลของการออกสู่อภิเนษกรมณ์บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณ จิตตถาคตพ้นโลกแล้วมีศีล สมาธิ ปัญญา ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานแล้ว จึงออกประกาศพระธรรมคำสั่งสอน รื้อขนเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ หลุดพ้นจากห้วงวัฏฏะสงสาร ทำหน้าที่พระบรมศาสดาประกาศพระพุทธศาสนา ตามวาระที่ได้บำเพ็ญบารมีมาตามสมควรแล้ว พระตถาคตเจ้าทุก ๆ พระองค์ก็ต้องทิ้งร่างกาย”
๘. “เจ้าจงอย่าลืมจุดนี้ ที่ครูทุกท่านสอนมรณานุสติควบคู่กับลมหายใจเข้า-ออก เหมือนดั่งองค์สมเด็จพระบรมครูองค์ปัจจุบันตรัสสอนพระอานนท์ว่า ตถาคต
นึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก หรือนัยหนึ่งยืนยันกับพระสารีบุตรว่า ตถาคตมากด้วยอานาปานุสติ”
๙. “ถ้าหากพวกเจ้าอยากได้ดีจงอย่าลืม ๒ จุดนี้
อานาปาทำให้มีสติแจ่มใสระลึกได้อยู่ตลอดเวลา จิตมีกำลังตั้งมั่น การรู้ลมเข้าออก คือ รู้ความไม่เที่ยงหรือนัยหนึ่งรู้ความเที่ยงว่า จักต้องตายแน่นอน ในความไม่เที่ยงแห่งลมเข้าหรือลมออกนั้น ๒ จุดนี้จัก
ต้องควบกันไว้เสมอ เชื่อมโยงเข้าไว้ให้ได้เป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ความประมาทจักไม่มี”
(ทรงหมายความว่า การรู้ลมหรืออานาปาอยู่เสมอ หากลมหยุดความตายก็มาถึง)
๑๐. “
เมื่อเห็นความไม่เที่ยงของลม เห็นความตาย ก็ย่อมเห็นร่างกายไม่เที่ยงไปด้วย เห็นธาตุ ๔ หรือแม้แต่วิญญาณธาตุ ก็เห็นหมดว่าไม่เที่ยง ความหลงใหลใฝ่ฝันในร่างกายก็จักน้อยลงไปตามลำดับ เห็นไปทั้งเมื่อธาตุ ๔ ไม่เที่ยง บกพร่องอยู่ตลอดเวลา ความเสื่อมของธาตุ ๔ มีความสกปรกเป็นที่รองรับ ไหลเข้า-ไหลออกอยู่ตลอดเวลา เป็นของน่าเบื่อหน่าย เป็นของนำมาซึ่งความทุกข์ เมื่อพิจารณาอย่างนี้ก็ได้ชื่อว่าเข้าถึงครู คือ ได้วิชชามาจริง แล้ว
นำมาปฏิบัติให้จริง ผลที่ได้ก็จักเป็นผลจริงในทุก ๆ ประการ”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com