ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 25-02-2011, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เช่นเดียวกับญาติโยมทั้งหลาย ที่วันนี้ได้มาบำเพ็ญกุศลกัน ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้ ไม่ว่าท่านจะได้รับคำสั่งสอนจากหลวงปู่ หลวงพ่อก็ดี จากปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่ของเราก็ดี ว่าการสั่งสมความดีในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา นี่คือหลักการคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงให้ไว้ เพื่อประโยชน์ในปัจจุบันของเรา เพื่อประโยชน์ในอนาคตของเรา และท้ายที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดคือให้เราล่วงพ้นจากความทุกข์เข้าสู่พระนิพพานนั่นเอง

ในเมื่อทุกท่านสามารถที่จะรักษาคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบทอดกันมาได้ถึง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และขณะเดียวกัน ก็ยังปฏิบัติได้กันจนเป็นปกติ ท่านทั้งหลายเมื่อมาที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ ก็ได้นำเอาวัตถุทานมา ไม่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะเป็นข้าวปลาอาหารก็ดี เครื่องสังฆทานก็ดี หรือว่าจะเป็นในส่วนของอามิสทานในส่วนอื่น ๆ ก็ดี ท่านทั้งหลายก็ได้ชื่อว่า ปฏิบัติในการให้ทานตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขณะเดียวกัน เมื่อท่านมาแล้วก็ทราบว่าต้องมีการสมาทานศีล ทุกท่านก็ตั้งใจสมาทานศีลด้วยความเคารพ อีกสักครู่หนึ่งเมื่อพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์เสร็จแล้ว ยังมีญาติโยมอีกคณะหนึ่งตั้งใจสมาทานอุโบสถศีล แล้วหลังจากนั้นก็จะมีญาติโยมที่ตั้งใจบวชเนกขัมมะบารมี เพื่อที่จะปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะรับศีล ๘ อันเป็นปาฏิหาริยอุโบสถอีกส่วนหนึ่ง ก็แปลว่าท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติตามคำสอนลำดับที่ ๒ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือเป็นผู้ประกอบไปด้วยศีลนั่นเอง

ส่วนท่านที่มาถึงวัดแล้วก็ทราบดีว่า ที่วัดจะมีการแสดงพระธรรมเทศนา ทุกท่านตั้งใจมาฟังธรรม ขณะที่เราฟังธรรม จิตของเราประกอบไปด้วยสมาธิ ขณะเดียวกันเมื่อคิดพิจารณาตามไปแล้ว เห็นว่าคำสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วส่วนใดก็ตาม ที่เราสามารถกระทำตามได้ เราตัดสินใจเดี๋ยวนี้ว่าเราจะทำตาม ก็แปลว่าท่านเป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยปัญญา

ญาติโยมทั้งหลายเป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยภาวนา คำว่า ภาวนา แปลว่า ทำให้เจริญ คือเป็นผู้ที่มีปัญญา ประกอบกรรมความดีโดยส่วนเดียวนั่นเอง ก็แปลว่าท่านเป็นผู้ที่ทรงในศีล สมาธิ ปัญญา ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้ทรงประกาศทั้ง อุดมการณ์ หลักการ และวิธีการไว้ ตั้งแต่ ๒,๕๙๘ ปีที่ล่วงมาแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2011 เมื่อ 10:20
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา