ให้จิตใจของเราตอบตนเองอย่างแท้จริงว่า ห่วงหรือไม่ห่วง ? อย่าตอบว่าไม่ห่วงเพราะรู้ว่าคำตอบนี้ถูก แต่ให้ตอบจากใจจริงของเรา เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเรายังมีความห่วงหาอาลัย กังวลกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้อยู่หรือไม่ ?
ถ้าหากว่ายังมีอยู่ เราต้องเร่งการปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้มีความเข้มแข็งมากขึ้น สามารถถอนจิตถอดใจจากความห่วงหาอาลัย และความกังวลทั้งหลายเหล่านี้ได้สะดวกขึ้น
แต่ถ้าหากว่า เราตอบตนเองได้อย่างแท้จริงว่า ไม่มีความห่วงใยเลย ก็ให้ถามตัวเองต่อไปว่า ถ้าตายแล้วเราจะไปที่ไหน ? ก็คงจะมีสถานที่เดียวเท่านั้นที่เราต้องการ ก็คือพระนิพพาน
เมื่อเป็นดังนั้น ก็ให้เรายกกำลังใจขึ้นเกาะพระนิพพานเอาไว้ หรือเกาะภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบเอาไว้ พยายามรักษากำลังใจให้ทรงอยู่ตรงนั้น ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โดยตั้งกำลังใจเอาไว้ว่า ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราให้ยึดถือมั่นหมายได้ ไม่มีสิ่งใดให้ห่วงใยให้อาลัยอาวรณ์ให้กังวลแล้ว ถ้าตายลงไปตอนนี้เดี๋ยวนี้ เราก็ขอมาอยู่ที่พระนิพพานแห่งเดียว แล้วให้รักษาอารมณ์ใจ ประคับประคองให้อยู่ตรงจุดนี้ของเราไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้รับสัญญานบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2011 เมื่อ 17:22
|