พระอาจารย์กล่าวว่า "บทเรียนของคนอื่น พอมาถึงเราจะเป็นเรื่องสนุก แต่ถ้าโดนเองก็จะเป็นเรื่องที่เราจะหัวเราะไม่ออก เรื่องอะไรก็ตามถ้านอกลู่นอกทางมาก อย่างเรื่องของจักษุธาตุ ประมาณ ๗-๘ เดือนก่อนเขาเอามาให้ดู มีทั้งรูปถ่าย มีทั้งซีดีมาให้ อาตมาเห็นเข้าก็บอกว่า คล้ายกับเป็นการถ่ายภาพซ้อนเพชรรัสเซียกับดวงตาคนไว้ด้วยกัน ก็เลยดูเหมือนว่าใช่
อะไรก็ตามที่ตำราไม่ได้ระบุไว้ ให้ละไว้ก่อนในฐานที่เข้าใจว่า..อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะพระบรมสารีริกธาตุนั้น มีตำราบอกเอาไว้ชัดเจนว่า มีสัณฐานเหมือนถั่วแตกหรือข้าวสารหัก สัณฐานเหมือนถั่วแตกก็ชิ้นใหญ่หน่อย สัณฐานเหมือนข้าวสารหักก็อย่างที่เราเห็นกันบ่อย ๆ
นอกจากชิ้นสำคัญไม่กี่ชิ้น คือ พระอุณหิส คือกระดูกหน้าผาก พระอุรังคธาตุ คือกระดูกหน้าอก พระรากขวัญ คือกระดูกไหปลาร้า และพระเขี้ยวแก้วก็คือเขี้ยวทั้งสี่ข้าง ที่ไม่เปลี่ยนสภาพแล้ว นอกจากนั้นแล้วก็เหมือนถั่วแตกหรือข้าวสารหัก
อีกส่วนหนึ่งที่ไม่เหมือนใครก็คือ มีสัณฐานเหมือนเมล็ดผักกาด ก็คือเป็นกลม ๆ เล็กนิดเดียว ส่วนนั้นจะเป็นพระอังคาร คือขี้เถ้า ตำราบอกเอาไว้ชัดว่า มีวรรณะเหมือนทองอุไร ก็คือ สีเหลืองเหลือบทอง
เราจะเห็นว่าทุกอย่างระบุไว้ชัดเจนแล้ว แต่ในปัจจุบันนี้มีสารพัดเลย นี่เป็นพระบุพโพธาตุ นี่เป็นพระโลหิตธาตุ เพิ่มเกินตำรามาเยอะแยะยุ่งไปหมด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-01-2019 เมื่อ 16:30
|