จตุตถฌาน มีอารมณ์ ๒ คือ เอกัคตากับอุเบกขา ซึ่งจะก้าวขึ้นไปสู่อารมณ์อากาศ
เมื่อพิจารณาอุเบกขาอยู่ จิตสังขารช่างผู้สร้างโลก ก็วิ่งออกมารับอาสา
สร้างอุเบกขาให้เป็นความสุขเวิ้งว้าง แล้วก็สร้างให้เกิดวิญญาณ
แล้วก็ดับวิญญาณซึ่งเรียกว่า สัญญาเวทยิตนิโรธ
คือสร้างจิตสร้างวิญญาณ สร้างสัญญาให้เล็กลง จนดับสัญญา
ความดับสัญญาเวทนานั้นเลยถือว่าพระนิพพาน
แท้ที่จริงไม่ใช่จิตตัง แต่เป็นสัญญาเวทนาหยุดทำงานเฉย ๆ
ถ้าจิตดับที่ไหนจะออกจากนิโรธได้
อันนี้จิตยังมีอยู่ เป็นแต่อาการจิตหยุดทำงาน
หากเราจะเรียกว่า สัญญาสังขารและสรรพกิเลสทั้งหลายหยุดทำงาน
เหมือนกับข้าราชการทำงานเครียดมา ๕ วัน
พอถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์ แล้วก็หยุดทำงาน
เพื่อคลายความเครียดนั้น
วันที่ ๘ คือวันจันทร์จะต้องทำงานต่อจะดีไหม
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
|