บรรดาลูกศิษย์ของพราหมณ์พาวรีทั้งสิบหกคน
ซึ่งพระอาจารย์ได้คิดค้นตั้งปัญหาอันลึกซึ้งคัมภีรภาพให้คนละปัญหา
เพื่อนำไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า
ลูกศิษย์ทั้งสิบหกคนของพราหมณ์พาวรีนี้ ก็ได้รับการอบรม
ปฏิบัติตามหลักวิชาการของพราหมณีวงศ์จนชำนิชำนาญแคล่วคล่องมาแล้วทั้งนั้น
เมื่อพราหมณ์พาวรีผู้เป็นอาจารย์ตั้งปัญหาให้ไปทูลถามพระพุทธองค์
มาณพทั้งสิบหกคนจึงเดินทางไปยังสำนักของพระพุทธองค์
เพื่อกราบทูลถามปัญหานั้น ๆ พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงธรรม
วิสัชนาแก้ปัญหานั้น ๆ ของศิษย์พราหมณ์พาวรีจนครบทั้งสิบหกคน
แต่ละคนล้วนตั้งใจปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์
ก็เกิดรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมนั้น ๆ ได้บรรลุอรหัตผลทุกท่าน
ยกเว้นปิงคิยมาณพ มัวพะวงคิดถึงแต่อาจารย์พราหมณ์พาวรีว่า
ไม่ได้ฟังธรรมคำสอนอันลึกซึ้งละเอียดจากพระพุทธองค์
ทั้งวาจาวาทะถ้อยคำของพระองค์ก็สละสลวยเป็นของน่าฟัง
ธรรมของพระองค์นี้เป็นสิ่งสมควรแก่ผู้มีปัญญา
ที่สามารถพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงได้โดยแท้
เสียดายจริง ๆ ที่อาจารย์ของเราไม่ได้มาฟัง
ด้วยจิตของปิงคิยมาณพส่งไปหาอาจารย์อยู่อย่างนั้น
จึงไม่ได้สำเร็จอรหันต์พร้อมเพื่อนในคราวนั้น
ต่อมาภายหลังเมื่อได้ฟังธรรมโอวาทจากพระพุทธองค์อีก
จึงได้สำเร็จบรรลุอรหัตผล
บรรดาศิษย์ทั้งสิบหกรวมทั้งอาจารย์จึงได้ขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระองค์
แล้วพระองค์ก็ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา ความว่า
ท่านจงเป็นภิกขุมาเถิด ธรรมวินัยของเราตรัสไว้ดีแล้ว
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
|