พระอาจารย์เล่าว่า "พระที่วัดท่าขนุนท่านเอาเรื่องที่สนทนากันที่นี่ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค และมีคนเข้ามาด่า ในลักษณะที่ว่าพูดโอ้อวดเกินจริง เรื่องของการปฏิบัติธรรมต้องไม่เอาอะไรเลย
อย่างวันนี้มีโยมมาถามว่า ไปปฏิบัติกับสายพระป่าหลักสูตรสามวัน วันนี้ท่านโทรมาให้ไปปฏิบัติอีกหกวัน ควรจะไปหรือเปล่า ? เพราะชอบสายหลวงพ่อฤๅษีมากกว่า
อาตมาบอกไปว่า จริง ๆ แล้วการปฏิบัติไม่มีสายของใครหรอก ทั้งหมดมาจากพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ท่านหยิบเอาตรงไหนมาสอน คนชอบใจแล้วปฏิบัติตามนั้นเป็นจำนวนมาก เขาก็ถือว่าเป็นสายนั้นสายนี้
เขาบอกว่าไม่ชอบสายพระป่าตรงที่อะไรก็ให้ละหมด แต่ตัวเขาเองปฏิบัติแล้วมักจะรู้เห็นเสมอ อาตมาบอกเขาว่า ถึงเวลาก็ปฏิบัติตามรูปแบบของเรา ส่วนรูปแบบเขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องไปค้านเขา
ส่วนใหญ่เขาเข้าใจว่าธรรมจะต้องบริสุทธิ์โดยส่วนเดียว อาตมาเคยยืนยันว่า ศาสนาพุทธไม่มีธรรมะบริสุทธิ์ เพราะว่าถูกปะปนมาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากคำสอนของศาสนาอื่นที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพิจารณาว่าถูกต้อง ปฏิบัติตามแล้วจะเกิดผล ส่วนที่สองเป็นธรรมะที่ดัดแปลงของศาสนาอื่นให้เป็นหลักธรรมที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ปฏิบัติตามแล้วเห็นผล
ส่วนสุดท้ายเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านตรัสรู้ ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของธรรม แต่ธรรมชาติของนักปฏิบัติ แผนภูมิจะเป็นลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่าเหมือนรูปพีระมิด ส่วนที่เป็นธรรมะบริสุทธิ์คือส่วนยอด ระดับปานกลางก็มากขึ้นหน่อย ส่วนระดับล่างสุดที่เป็นฐาน ก็จะมีจำนวนมากต่อมากด้วยกัน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2011 เมื่อ 09:41
|