กายคนเหมือนผีดิบเดินได้
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้
๑. “อย่าคิดว่าร่างกายของเขา จักเป็นหมูหรือปลาแช่เย็นอย่างเดียว
ร่างกายของเจ้าเองก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน ในเวลาที่จิตออกจากร่างแล้ว (ศพเมื่อวิญญาณไปแล้ว) มันก็เหมือนกันหมด ยกเว้นผู้มีความสามารถอธิษฐานร่างเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น ที่จักมีสภาพแตกต่างกันไป
(สาเหตุก็เพราะเพื่อนผมท่านไปเห็นศพแช่แข็งอยู่ในตู้เย็นแค่ประมาณ ๓ ชั่วโมงหลังตาย มันมีสภาพคล้ายหมูหรือปลาแช่แข็ง จิตก็ปรุงแต่งว่าไม่เหมือนหลวงพ่อฤๅษี ๑๐๐ วันแล้ว มือ-แขน-ขาท่านยังงอได้ เหยียดได้อยู่เลย)
๒. “
ดูศพแล้วสัมผัสแล้ว อย่าลืมระลึกนึกถึงมรณานุสติด้วย เป็นอสุภะด้วย จักเห็นได้ว่าหลายคนมีความรังเกียจและกลัวในศพนั้น”
๓. “โดยปกติธรรมแล้ว ศพเมื่อวิญญาณไปแล้วก็เหมือนท่อนไม้ หาได้มีความน่ากลัวจริงไม่ ต่างกับร่างกายหรือผีดิบเดินได้ อันมีวิญญาณยังไม่ไป นี่สิน่ากลัว เพราะร่างกายมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน หลอกเราอยู่ทุกวัน จักว่าร่างกายหลอกเราได้ไหม
หรือจิตของเราไปเกาะร่างกาย ยึดวิญญาณธาตุ แล้วปรุงแต่งขึ้นมาให้เกิดความโง่ภายในจิต อย่างนี้จิตหลอกหรือร่างกายมันหลอก”
(ตอบว่าจิตหลอก)
๔. “
หลอกทั้ง ๒ อย่าง ถ้าหากจิตยังไม่รู้เท่าทันความเป็นจริงของร่างกาย ลงท้ายเลยจิตก็หลอก ร่างกายก็หลอก จึงมาตกหลุมกิเลสตรงนี้ ถ้าหากรู้เท่าทันความเป็นจริงของร่างกายให้แจ้งเพียงใด กายก็จักไม่มีโอกาสหลอกจิตได้อีกเลย แต่ถ้า
หากยังไม่รู้เท่าทันร่างกายนี้ ก็จักถูกหลอกอยู่ร่ำไป จิตต้องตกเป็นทาสของกิเลสตลอดไปเช่นกัน”
๕. “จงอย่าหลงลืม
หมั่นพิจารณาร่างกายนี้ให้รู้เท่าทันตามสภาพของความเป็นจริงให้มาก ๆ จึงจักวางสักกายทิฏฐิหรืออารมณ์หลงติดอยู่ในกายได้โดยง่าย”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com