ถาม : ใจหนูออกไปรับรู้สภาวะต่าง ๆ ของธรรมชาติ ความละเอียดต่าง ๆ ที่อยู่ในอณูอากาศ ตัวหนูเองไม่ได้ต้องการที่จะรับรู้เรื่องต่าง ๆ แต่ก็เหมือนโดนบังคับให้เป็นไปอย่างนั้น
ตอบ : ถ้าทำไปถึงระดับหนึ่ง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องรู้เห็น เราอยากจะรู้หรือไม่รู้ เราก็จะรู้ อยากจะเห็นหรือไม่อยากเห็น เราก็เห็น เพียงแต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์เราก็รับไว้ สิ่งไหนไม่เป็นประโยชน์ก็ปล่อยไว้ตรงนั้นแหละ
โดยเฉพาะต้องมีสติให้มาก ๆ เพราะการรู้เห็น เราต้องเน้นว่า "ต้องรู้เห็นเพื่อการหลุดพ้นเท่านั้น" ไม่อย่างนั้นจะโดนหลอกไปไกล หลอกให้รู้ไปเรื่อย ๆ พอรู้มากเข้าก็ออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ
ถาม : ถามว่าหนูอยากรับรู้ไหม ? ก็ไม่ได้อยากรับรู้
ตอบ : เขาจะหลอกให้เราอยากรู้ ยั่วให้อยากแล้วก็จะจากไป
ถาม : เวลาหนูเอนหลังลงนอน ใจก็จะออกไปรับรู้ บางทีไปเจอกับคลื่นบางอย่าง ถ้าไปเจอคลื่นกระแสดีก็แล้วไป แต่บางทีก็ไปเจอคลื่นไม่ดี อย่างเช่นพวกที่เป็นมิจฉาทิฐิ เขาเห็นเรา เขาก็ตามเรามา เท่ากับว่าหาเรื่องใส่ตัวโดยไม่ได้ต้องการค่ะ
ตอบ : ให้เอาภาพพระครอบไว้ก่อนแล้วค่อยไป นึกถึงพระแล้วจะปลอดภัย ต้องใส่เกราะไว้ก่อน เรื่องพวกนี้พอก่อกวนแล้วทำให้เสียเวลาปฏิบัติมาก อาตมาต้องทำเป็นตายอยู่หลายรอบ กว่าพวกนั้นเขาจะเลิก มีแต่ฝ่ายเขาทำไป แต่เราไม่รับเสียอย่าง เขานึกว่าเราตายแล้วเขาก็เลิกไปเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2011 เมื่อ 16:18
|