สำหรับคนที่รักกรรมฐาน การปฏิบัติภาวนาถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะพวกเราที่ปรารถนาพระนิพพาน ยิ่งต้องทำภาวนาให้จงหนักเพื่อความหลุดพ้นของตน ภาวนาจะดีได้ก็ต้องเกิดจากทาน และศีลที่ดีในเบื้องต้นก่อน การภาวนาจึงจะได้ผล
พระอาจารย์บอกว่า ในตอนเช้าเราควรเข้าสมาธิให้สูงที่สุดตามความสามารถที่เราพึงจะทำได้ ความร่มเย็นของสมาธิจะช่วยให้ใจของเราไม่หวั่นไหวไปในอารมณ์ต่าง ๆ ใหม่ ๆ ก็อาจจะร่มเย็นได้ไม่กี่ชั่วโมง นานเข้า ๆ ถ้ายังไม่ละความเพียร ความร่มเย็นของสมาธิก็จะขยายเวลามากขึ้น เป็นครึ่งวันหรือหนึ่งวันเต็มได้ในที่สุด
ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ใหม่ ๆ ช่วงที่ท่านทำงานอยู่ที่วัดท่าซุง วันนั้นที่วัดมีงานใหญ่ ท่านเองต้องเจอกับคนมาก พอตกบ่ายท่านรู้สึกว่ากำลังของสมาธิที่ท่านทำไว้ตั้งแต่ตอนเช้าเริ่มหมด โดยสังเกตจากการที่ตัวเองเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพูดกับโยม ท่านรู้ว่าขืนอยู่ต่อคงต้องแสดงอาการที่ไม่ดีออกไปแน่ ๆ จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำสมาธิใหม่
ท่านว่าเข้าไปนั่งรวบรวมกำลังใจอยู่พักใหญ่ จนกำลังใจเต็มที่ พร้อมที่จะออกมาทำงานได้อีก จึงออกมาใหม่ พระที่ทำงานด้วยกันยังแซวท่านว่า ทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง ? ท่านว่าท้องผูก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2011 เมื่อ 16:29
|