ดูแบบคำตอบเดียว
  #64  
เก่า 23-09-2011, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,416,988 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของการบวชพระที่เขาถามอันตรายิกธรรม คือ กุฏฐัง คัณโฑ กิลาโส โสโส อะปะมาโร เหล่านี้เป็นโรคที่สังคมรังเกียจในยุคนั้น พวกโรคกลากเกลื้อน โรคเรื้อน ลมชัก วัณโรค

หมอชีวกโกมารภัจจ์ท่านเคารพพระพุทธเจ้ามาก ท่านรักษาแต่พระพุทธเจ้าและพระ ส่วนเวลาอื่นท่านต้องถวายการรักษาพระเจ้าแผ่นดินเพราะเป็นหมอหลวง ไม่มีเวลารักษาคนทั่วไป คนทั่วไปก็ฉลาด ใช้วิธีบวชเข้ามาเป็นพระให้หมอชีวกฯ รักษา พอหายจากโรคแล้วก็สึก

หมอชีวกโกมารภัจจ์เดินเข้าวัง พอดีสวนกับพระที่เพิ่งสึกใหม่ ๆ ก็จำได้ "ท่านสึกแล้วหรือ ?" เขาตอบว่า "เราหายจากโรคแล้วจึงสึก" ได้ยินดังนี้ หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงเข้าใจว่า เขาบวชเข้ามาต้องการให้รักษาอย่างเดียว ท่านก็เลยขอพระพุทธเจ้าว่า บุคคลที่ป่วยด้วยโรคสังคมรังเกียจ ๕ ประการนี้ อย่าให้บวช คือให้มีการถามอันตรายิกธรรม ก็คือถามว่าเป็นโรคพวกนี้หรือเปล่า

หลังจากนั้นส่วนอื่น ๆ ก็จะมี มะนุสโสสิ เป็นมนุษย์หรือเปล่า ? เพราะเคยมีพญานาคแปลงกายมาบวช ปุริโสสิ เป็นผู้ชายหรือเปล่า ? ความจริงเขาถามว่าเป็นบุรุษหรือเปล่า ? ภุชิสโสสิ เป็นทาสหรือเปล่า ? ถ้าเป็นทาสหนีเจ้านายมาก็บวชให้ไม่ได้ เพราะเป็นคนมีเจ้าของ

อะนะโณสิ เป็นหนี้หรือเปล่า ? นะสิ ราชะภะโฏ เป็นข้าราชการหรือเปล่า ? ถ้าหนีราชการมาบวช พระเจ้าแผ่นดินสั่งประหารชีวิตจะเดือดร้อนกันใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2011 เมื่อ 11:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา