การเจ็บป่วยเป็นของดี
จักได้ไม่ประมาท (อีกครั้งหนึ่ง)
๑. “
รู้อาการของกายว่าไม่ดี ก็พึงอย่าประมาท เอาความเพียรในการปฏิบัติละขันธ์ ๕ เข้าไว้
ป่วยทุกครั้งจงคิดเสมอว่า ชีวิตมันอาจจักตายได้อยู่ในขณะจิตนี้ตลอดเวลา จงอย่าคิดว่าเรายังจักไม่ตายเป็นอันขาด ให้มองอารมณ์จิตเข้าไว้ มีความเยือกเย็นสงบพอที่จักรับสภาพธรรมดาของขันธ์ ๕ เพียงพอหรือไม่
อย่าให้จิตไปเดือดร้อนกับทุกขเวทนาให้มากจนเกินไป รักษาอารมณ์รักพระนิพพานเข้าไว้ เพื่อให้จิตทรงตัวอยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา”
๒. “ร่างกายไม่ดี ก็จงอย่ามีความประมาทเป็นอันขาด คอยคุมจิตไว้ให้ดี อย่าไปยุ่งกับเรื่องภายนอก เอาแต่การกำหนดรู้อารมณ์ภายในนี่แหละเป็นประการสำคัญ และให้เห็นธรรมดาของร่างกายที่เป็นอย่างนี้เข้าไว้
เกิดทุกชาติก็ป่วยอย่างนี้ทุกชาติ ทำความปรารถนาว่าเราจักไม่ต้องการร่างกายเช่นนี้อีกต่อไป”
๓. “อนึ่ง การปฏิบัติก็จงอย่าฝืนสังขารให้มากนัก ไม่ไหวก็พึงพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าห่วงงานที่คั่งค้างอยู่ อย่าไปสนใจเรื่องภายนอก
ให้มีสติ-สัมปชัญญะกำหนดรู้ในเรื่องภายใน อันเป็นเรื่องของจิต จักตัดซึ่งกิเลสได้โดยตรง”
๔. “กรรมของคนอื่นก็จงวางภาระลงเสีย ให้เห็นธรรมดาในกฎของกรรมนั้น
จักต้องคิดว่าเราเป็นผู้มีเวลาน้อย ก็จงอย่าปล่อยเวลาให้เสียไปในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ จิตถ้าหากยังติดอยู่ในสิ่งเหล่านี้ ตายแล้วก็ไปพระนิพพานไม่ได้”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com