พระอาจารย์เล่าว่า "ในงานของครูบาวิฑูรย์ มีนักเลงดีเขาลองว่าอาจารย์ใหญ่จะแน่สักแค่ไหน ? ป่านนี้คงรู้แล้วว่าอาจารย์ใหญ่แน่แค่ไหน อาตมาไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ปลุกคาถามหาสะท้อนเท่านั้น คนอื่นเขาคงแปลกใจว่าทำไมอาตมาขยับแล้วขยับอีกนั่งไม่ติด เพราะตอนนั้นเหมือนกับมีเหล็กแหลมแทงจากฝ่าเท้าเข้าไปถึงกระดูก ปวดสุดใจขาดดิ้นเลย..!
ครั้งแรกก็ว่าจะยอมรับกฎของกรรมเสียหน่อย แต่ชักจะแรงขึ้นทุกที ก็เลยไม่เอาด้วยแล้ว ทีแรกกดไว้แค่หัวเข่า เขาก็ยังไม่เลิกอีก เลยดันพรวดคืนไป พอพระเริ่มเจริญพระพุทธมนต์ก็เริ่มต้นเอาอีกแล้ว ในเมื่อมาใหม่ อยากได้ก็คืนไป เราไม่ได้ทำอะไรนี่หว่า..!
ถ้าเขารู้พื้นฐานดวงของอาตมาว่าอริเป็นมรณะ ก็คงจะไม่คิดทำอะไร เผอิญว่าเขาไม่รู้ พื้นฐานดวงของอาตมา พอถอดออกมาแล้ว ปัตนิเป็นโภคะ ก็คือผู้หญิงจะให้ลาภ จะได้รับการสนับสนุนจากผู้หญิงเสมอ
ข้อที่สอง คืออริเป็นมรณะ ใครตั้งตัวเป็นศัตรู แค่นั่งมองเฉย ๆ เขาก็ตายไปเอง ไม่ต้องไปทำอะไร อันดับสุดท้าย สหัชชะเป็นพยายะ เพื่อนจะพาจนตลอด อาตมาเลยตัดสินใจจัดกฐินปลดหนี้ให้เลย จะได้ไม่ต้องมาพาให้จนอีก
พื้นฐานดวงเป็นอย่างนี้จริง ๆ ก็เลยไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมยันต์เกราะเพชรหรือตะกรุดมหาสะท้อน อาจารย์เล็กถึงทำขึ้นนักหนา จะไม่ให้ขึ้นได้อย่างไร เพราะอริเป็นมรณะ มาเท่าไรก็คืนไปหมด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-10-2011 เมื่อ 17:15
|