พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาจะจารวัตถุมงคลแจกพวกที่ไปนราธิวาส จะได้รู้ว่าเหนียวจริงหรือเปล่า ? ปกติแล้ววัตถุมงคลทางสายหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านห้ามเหนียว หลวงพ่อท่านบอกว่า ลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่มาทางสายพุทธภูมิ พวกนี้มาแรงเป็นปกติ ถ้าหากว่าเหนียวเดี๋ยวจะไม่มีใครเอาอยู่ ท่านก็เลยห้ามทำวัตถุมงคลที่เหนียว ถ้าจะทำวัตถุมงคลที่เหนียว ให้เว้นข้อมือกับข้อเท้าไว้ เพื่อให้มีจุดอ่อน
แต่จริง ๆ แล้ววัตถุมงคลที่เหนียวจะเสกง่ายกว่า วัตถุมงคลที่เสกยากก็คือทางด้านเมตตา ทางด้านลาภ อาตมานี่เล่นของยากมาตลอด แต่คนเขาคิดว่าง่าย วัตถุมงคลทางด้านเมตตามหานิยม ต้องออกจากใจคนเสกจริง ๆ ถ้าคนเสกไม่มีเมตตาจริง ๆ ทำขึ้นไม่เต็มที่หรอก ส่วนวัตถุมงคลทางด้านลาภผลนั้น คนเสกต้องมีพื้นฐานของทานบารมีมาแต่อดีต ไม่อย่างนั้นเท่ากับตัดของตัวเองให้เขาหมด เดี๋ยวตัวเองได้จนตายชัก..!
แต่อาตมาชอบพวกแคล้วคลาดมากกว่า โดยเฉพาะพวกแคล้วคลาดปืน แคล้วคลาดระเบิด เสียงดัง ๆ อร่อยหูดี ถึงเวลาพวกเราก็เฮพร้อม ๆ กันบอกว่า “เอาอีก ๆ” พวกวางระเบิดคงยืนเกาหัวว่า ไอ้พวกนี้บ้าหรือเปล่า ?
สมัยก่อนทหารออกรบ ๑ กองร้อย พระไปอย่างน้อยประมาณ ๑ กองพล มากกว่าประมาณ ๑๐ เท่า พวกเราลงใต้ไปกัน ๘๐ คน พระน่าจะไปประมาณ ๘๐๐ องค์ นี่ถือว่าเกินโควตามากแล้ว สมัยที่ท่านพ่อขุนแผนตีเชียงใหม่ ไปกันแค่ ๓๗ คนเอง มีขุนแผน มีพลายงาม และเพื่อนนักโทษอีก ๓๕ คน ตีเชียงใหม่ซะเละเป็นโจ๊กเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2011 เมื่อ 14:58
|