พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราเหมือนอยู่ในเรือนที่ไฟกำลังไหม้ แทนที่เราจะตั้งหน้าตะเกียกตะกายหนีไฟ เรากลับไปนอนสบาย สมควรตายไหมล่ะ ?
ยิ่งไม่มีเวลาเรายิ่งต้องสละทุ่มเทให้ เหมือนกับที่อาตมาไม่มีเวลานอน เพราะยอมสละลุกขึ้นมาภาวนา พอถึงเวลารวมแถวก็เริ่มออกวิ่ง วันหนึ่ง ๑๕ กิโลเมตร แล้วแต่ครูฝึก แต่ก็ไม่หวั่น ซ้ายพุท ขวาโธ ลงตัวพอดีเลย วิ่งนานเท่าไรก็ภาวนาได้มากเท่านั้น
ทำอย่างไรที่พวกเราจะฉวยทุกอิริยาบถของเรา ทุกเวลาของเรา ยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม กิน คิด พูด ทำ ใช้เวลาทั้งหลายเหล่านั้นควบกับการภาวนาไปด้วย
การบ้านนี้อาจจะยากไปหน่อย แต่ขอยืนยันว่าถ้าทำการบ้านนี้ได้ พวกเราจะสอบได้ทุกคน ถึงแม้จะไม่ได้เกรด a อย่างน้อยไม่ขี้เหร่ถึง c ถึง d แน่นอน ช่วยรับไปแล้วทำด้วย
อาตมาเองก็รู้ตัวว่าแก่เต็มทีแล้ว เหนื่อย...เลิกงานพอหงายหลังก็สลบไปแล้ว ก่อนหน้านี้จะตื่นก่อนนาฬิกาปลุก ๕ นาที แต่เดี๋ยวนี้นาฬิกาดัง เสียงอะไรวะ..? เพลียจนไม่มีแรงจะลุก ก่อนหน้านี้พอหมดสภาพแล้วยังตื๊อต่อได้เป็นวัน ๆ แต่เดี๋ยวนี้หมดแล้วหมดเลย หงายลงไปได้ก็หลับเลย พุท ไม่ทันจะโธ ก็ไปแล้ว
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-11-2016 เมื่อ 15:30
|