ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 08-11-2011, 13:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,737
ได้ให้อนุโมทนา: 152,130
ได้รับอนุโมทนา 4,419,844 ครั้ง ใน 34,327 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นเช่นนั้น การที่สภาพจิตของเราจะอยู่กับอารมณ์ปัจจุบันเฉพาะหน้า ก็คือตอนนี้เดี๋ยวนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในเมื่อแก้ไขไม่ได้ก็แปลว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะปัญหาต้องแก้ได้ ในเมื่อเราไม่มีปัญหา จะไปเครียดไปกลัวก็เสียเวลาเปล่า

อย่างไรเสียรัฐบาลก็ไม่ทอดทิ้งเรา ไม่มีบ้านอยู่ก็มีศูนย์อพยพ ไม่มีอาหารขายเดี๋ยวก็มีผู้ที่มีจิตเมตตาส่งอาหารมาเอง แม้ว่าจะช้าหน่อยก็เชื่อว่าไม่ถึงตายอย่างแน่นอน

เมื่อสามารถวางปลิโพธิ คือความกังวลตรงนี้ลงได้ สภาพจิตของเราก็จะไม่แบกรับความเครียดเอาไว้ โดยเฉพาะการเสพข่าวสารต่าง ๆ โดยขาดสติยั้งคิด มีแต่จะเพิ่มความเครียดขึ้นเรื่อย ๆ การอยู่กับลมหายใจเข้าออกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ว่าทำอย่างไรที่เราจะอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับคำภาวนา อยู่กับภาพพระของเรา

หายใจเข้าให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออกให้ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าสามารถทำดังนี้ได้ สภาพจิตที่ทรงตัวมั่นคง เราก็จะมีสติแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดี การปฏิบัตินั้นจำเป็นต้องมีการทดสอบจากของจริง จึงจะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราทำมานั้นเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ให้การที่น้ำท่วมในครั้งนี้เปรียบเหมือนกับหินลองทอง เพื่อที่จะทดสอบสภาพจิตของเราว่า เท่าที่ฝึกปฏิบัติมานั้นใช้ได้แล้วหรือยัง หรือว่ากำลังใจของเราแย่มาก เครียดได้กับทุกเรื่อง ปล่อยวางไม่ได้สักเรื่อง ตำหนิติเตียนผู้อื่นได้ทุกเรื่อง ถ้าหากว่าเป็นลักษณะอย่างนี้ แสดงว่ากำลังใจของเราใช้งานไม่ได้ มีแต่จะสะสมสิ่งที่ไม่ดีไม่งามมากขึ้นไปเรื่อย ๆ สมควรที่จะต้องรีบวิ่งมาอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับการปฏิบัติภาวนาให้มากกว่าที่เคยทำ

สำคัญที่สุดก็คือ มองให้เห็นธรรมดาที่เป็นธรรมชาติของทุกสิ่งทุกอย่าง ธรรมดาเมื่อฝนมากก็ย่อมเกิดอุทกภัยหนักบ้างเบาบ้าง ปีที่ผ่านมาน้ำแห้งเกือบทุกเขื่อน เมื่อเกิดฝนตกขึ้นมา ทางเขื่อนจึงดำเนินการเก็บกักเก็บน้ำอย่างเต็มที่ เพราะเกรงว่าจะมีน้ำไม่พอสำหรับผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งปี

แต่ปรากฏว่าพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชั่นต่าง ๆ กระหน่ำเข้ามาหลายลูกติด ๆ กัน โดยที่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถที่จะคาดหมายพยากรณ์ได้ถึง เครื่องมือวิทยาศาสตร์ไม่สามารถที่จะบอกได้ จึงทำให้เกิดสภาวะที่เขื่อนไม่สามารถจะรับน้ำต่อไปได้ ต้องมีการปล่อยน้ำลงมา

พอหลายเขื่อนปล่อยน้ำพร้อม ๆ กัน บวกกับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ และที่ตกซ้ำเติมลงมา จึงเกิดภาวะน้ำท่วมขึ้นได้ โดยเฉพาะว่าในการบริหารจัดการน้ำนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็ไปกั้นไปขวาง จึงทำให้น้ำต้องสะสมรวมตัวกันมากขึ้น ๆ เมื่อถึงเวลาน้ำทลายสิ่งกีดขวางเข้ามาได้ จึงเกิดการท่วมอย่างรุนแรงและสูงอย่างฉับพลัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2011 เมื่อ 15:02
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา