ถ้าหากมองเห็นว่าปกติของธรรมชาติเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่ต้องไปเครียด อยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับคำภาวนาของเรา เราอาจจะโดนน้ำท่วมตายก็ได้ เราอาจจะเสียชีวิตเพราะติดเชื้อที่มากับสายน้ำก็ได้ เราอาจจะโดนสัตว์มีพิษที่มากับสายน้ำ กัดทำร้ายถึงตายก็ได้
ในเมื่อชีวิตของเราไม่แน่นอนถึงขนาดนี้ ก็เร่งสร้างความดีให้มากเข้าไว้ โดยกำหนดเป้าหมายว่าตายแล้วเราจะไปไหน ถ้าหากว่าเราเกิดมาอีก ไม่ว่าชาติไหนภพไหน ก็ต้องพบกับความทุกข์เช่นนี้ ไม่ว่าเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็ต้องเจอลักษณะของภัยธรรมชาติเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเพื่อพบกับความทุกข์เช่นนี้ เรายังต้องการหรือไม่ ?
ถ้าเราไม่ต้องการ ไม่พึงปรารถนาแล้ว มีที่เดียวที่จะหลุดพ้นได้คือพระนิพพาน ก็เอาใจจดจ่อตั้งมั่นอยู่ตรงนั้น แล้วก็กำหนดภาวนาหรือพิจารณาของเราไป ถ้าสามารถรักษากำลังใจของเราให้ทรงตัวได้ในลักษณะนี้ คือศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์ ความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ของเราจริงจังแน่นแฟ้นไม่คลอนคลาย รู้ตัวอยู่เสมอว่าต้องตาย ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพาน
ถ้ากำลังใจท่านทรงตัวอย่างนี้ได้ โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มีมากกว่าผู้อื่นเขา ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านกำหนดการภาวนาและพิจารณาไปตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2011 เมื่อ 17:33
|