อารมณ์ใดกระทบแล้ว ปลดไม่ได้ อารมณ์นั้นคือกิเลส
อารมณ์ใดกระทบแล้ว ปลดไม่ได้ อารมณ์นั้นคือกิเลส
๑. “อารมณ์ใด ๆ มากระทบจิตแล้ว ปลดไม่ได้ ก็ถือว่าอารมณ์นั้นเป็นกิเลส เป็นเหตุให้เศร้าหมองทางอายตนะ ถือว่ายังมีอารมณ์ปลดไม่พอ จักต้องใช้ความเพียรมากกว่านี้ และมีสติให้มากขึ้นยิ่งกว่านี้ จุดนี้รวมไปถึงอารมณ์เกาะขันธ์ ๕ ของตนเอง และเกาะขันธ์ ๕ ของผู้อื่น เกาะงาน เกาะกังวลถึงความเป็นอยู่ของชีวิตด้วย ยิ่งประการสุดท้าย ร่างกายที่ป่วย ๆ อยู่ในขณะนี้นี่แหละ เป็นเครื่องวัดอารมณ์ปลดได้เป็นอย่างดี”
๒. “ให้ใช้อารมณ์กระทบเป็นเครื่องวัดจิต ธรรมของตถาคตจักต้องถูกกระทบก่อน จึงจักเป็นของจริง ว่าสอบได้หรือสอบไม่ได้ ให้สังเกตดูกระแสอารมณ์จิตในแต่ละวัน มีตั้ง ๑๐๐ ครั้ง ๑,๐๐๐ ครั้ง ที่สัมผัสได้จากการกระทบของอายตนะ ๑๒ นั่นแหละเป็นของจริง”
๓. “ไม่ว่าจักเป็นอารมณ์โกรธ โลภ หลง มีแต่ตนเองเท่านั้นที่จักแก้ไขอารมณ์กิเลสเหล่านี้ลงได้ อย่าไปหวังให้บุคคลอื่นช่วยแก้ไข แม้แต่ตถาคตเองก็เป็นเพียงผู้บอก แก้ไขได้ก็ไปพระนิพพานได้ แก้ไขไม่ได้ก็ไปพระนิพพานไม่ได้ วัดจิตกันที่ตรงนี้ ไม่มีใครช่วยวัดได้นอกจากตนเอง จักต้องมีกำลังใจวัดด้วยตนเอง ตัด ละ สละให้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น และยิ่งร่างกายป่วยมากเท่าไหร่ ให้เห็นเวลาของชีวิตเหลือน้อย ถ้าไม่แก้ไขเสียตอนนี้ก็อาจจักสายเกินไป อย่าลืม ความเป็นพระอรหันต์เขาตัดกันได้ก่อนตายนะ เพราะฉะนั้น จงอย่าประมาทเป็นอันขาด”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 22-11-2011 เมื่อ 15:30
|