ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 24-11-2011, 11:08
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๖. “อย่าห่วงใครมากกว่าห่วงใจตนเอง มรรคผลนิพพานเป็นเรื่องส่วนตัวแท้ ๆ เป็นกิจภายในที่ไม่มีใครทำแทนกันได้ การชี้แนะ การบอกแนวทางนั้นบอกได้ แต่มรรคผลอันพึงเกิดขึ้นได้จริง ๆ ก็ต่อเมื่อผู้ฟังนำไปคิดพิจารณา แล้วหาทางปฏิบัติเอาเองเท่านั้น จึงจักเป็นของจริง หมั่นพิจารณาร่างกายให้มากขึ้น ค่อย ๆ พิจารณาให้เห็นชัดขึ้น ๆ ก็จักวางภาระร่างกายนี้ลงได้”

๗. “การปฏิบัติมาถึงขั้นนี้แล้ว ให้สำรวจใจดูว่า จริงจังกับกรรมฐานเต็มที่หรือยัง ลองสำรวจใจให้ลึก ๆ ซิว่า กรรมฐานกองไหนที่ตนยังมีความบกพร่องอยู่ให้รีบแก้ไขกองนั้น อย่าคิดว่าทำไม่ได้ ต้องตั้งใจว่าทำได้ เพราะถ้าหากทำไม่ได้ก็ไปพระนิพพานไม่ได้ การไปพระนิพพานจักต้องเอาจริงกัน มิใช่สักแต่ว่าทำอะไรเล่น ๆ หรือทำบ้างไม่ทำบ้าง หรือมัวแต่คิดว่า เวลายังเหลืออยู่มากก็ใช้ไม่ได้ จัดว่าเป็นการประมาทอย่างยิ่ง สำรวจใจดูให้ดี อย่าเข้าข้างตนเอง จักเห็นว่ายังมีจุดบกพร่องอีกเยอะ และตราบใดที่ยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน สำรวจแล้ว กิเลสโลภ โกรธ หลง ยังอยู่ในจิต ก็แสดงว่ายังดีไม่พอ อย่าหลงคิดว่าตนเองดีแล้วเป็นอันขาด

๘. “เวทนาของร่างกาย ให้สักเพียงแต่ว่าเป็นของร่างกาย และจงพยายามอย่าเอาจิตไปยึดเกาะในเวทนานั้น ๆ รู้จำเป็นต้องรู้ เพื่อให้จิตเห็นความไม่เที่ยงของกายสังขาร หรืออุปาทานขันธ์ ๕ ก็จักกำเริบได้น้อย อนึ่ง ถ้าหากจุดนี้ทำได้ จิตจักสงบมาก ไม่เดือดร้อนใจไปกับทุกขเวทนา หรือสุขเวทนาของกายสังขาร พิจารณาให้รอบคอบแล้วจักเห็นหนทางให้จิตเป็นไป”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2011 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา