๗. “อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้
อย่ากังวลใจกับอนาคตให้มากนัก ให้จิตอยู่ในธรรมปัจจุบันให้มาก เรื่องที่ยังมาไม่ถึงก็ปล่อยให้เป็นไป เป็นเรื่องของเบื้องหน้า เรื่องของธรรมอนาคตนั้นไม่เที่ยง จักไปยึดถืออันใดเป็นแก่นสาร รังแต่จักทำให้จิตมีความทุกข์ไปล่วงหน้าเสียเปล่า พยายามทำทุกอย่างตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ด้วยความใจเย็น ๆ ไม่คิดจักต่อกรกับใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะข่าวลือทั้งหลายอันเป็นโลกธรรม ๘ ซึ่งทุกคนในโลกหนีมันไม่พ้น ก็จงเห็นเป็นของธรรมดา โดยเฉพาะบุคคลที่ยังไม่มีศีล ไม่มีกรรมบถ ๑๐ หมวดวาจา ๔ ยิ่งต้องเห็นเป็นของธรรมดาของบุคคลผู้นั้น รักษาอารมณ์ของเรา อย่าให้มีโทสะกับเขา เอาการกระทำของเขานั่นแหละมาเป็นครูสอนเรา จักได้ประโยชน์มาก หากยังทำไม่ได้ สังโยชน์ข้อ ๔ และ ๕ ก็ผ่านไม่ได้ อธิจิตก็เกิดไม่ได้ พระนิพพานก็ไม่สามารถจักเข้าถึง ดังนั้นที่เจ้าคิดได้ว่า
ควรให้อภัยทานกับพวกเขาที่ชอบใส่ร้ายป้ายสี ก็เป็นของดีที่ไม่แสดงอาการโต้ตอบ ยอมแพ้ความชั่วของผู้อื่นเพื่อที่จักชนะความชั่วของใจเราเอง บุตรของตถาคตทุกคนจงจำไว้ คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก ให้ยอมรับนับถือความเป็นจริงตามนี้ ให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา”
๘. “
อย่าฝืนธรรมจิตจักไม่ทุกข์ ขันธ์ ๕ มันจักตาย จิตจักฝืนให้มันอยู่ย่อมเป็นไปไม่ได้ เรื่องของขันธ์ ๕ เป็นเรื่องกฎของกรรม ซึ่งเที่ยงเสมอและให้ผลไม่มีผิดตัวด้วย ที่เจ้าไปเป็นทุกข์ เป็นกังวลเรื่องการเจ็บป่วยของพระที่เจ้าเคารพนับถือจนเกินพอดีในขณะนี้ เป็นการไม่ถูกต้อง เพราะไปเกาะเปลือกของท่าน ซึ่งไม่เที่ยง สกปรก หาสาระอันใดมิได้
แทนที่จะเกาะพระธรรมหรือความดีของท่าน ซึ่งเที่ยง.. นำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ตามลำดับ เรื่องนี้จักต้องเร่งการพิจารณากายคตาฯ และอสุภกรรมฐานให้มาก ก็จักพบความจริง เกี่ยวกับกายกับจิตได้ตามความเป็นจริงละเอียดขึ้น ๆ ตามลำดับ และมีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน คือพระนิพพานเป็นที่ไป และจงอย่าทิ้งอานาปานุสติ ซึ่งเป็นตัวโยงให้เกิดสติ-สัมปชัญญะให้สมบูรณ์ได้ รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน ก็จงอย่าลืม”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com