พระอาจารย์กล่าวว่า "งานบรรพชาสามเณรที่ผ่านมา ญาติโยมส่วนใหญ่เห็นแล้วปลื้มใจ เพราะเณรเป็นร้อย ๆ เดินแถวบิณฑบาตยาว ๓๐๐-๔๐๐ เมตร รถติดทั้งตลาด บ้านไหนพอเห็นเข้า ตอนแรกก็ไม่ได้เตรียมของไว้ ต้องวิ่งไปหาของกันใหญ่ มีอยู่บ้านหนึ่งใส่มะพร้าวอ่อนมา ๒ ลูก ลองนึกดูว่าบาตรใบหนึ่งใส่มะพร้าวได้ลูกเดียว พอมะพร้าวอีกลูกมาจะทำอย่างไร ก็ต้องรอเขาเก็บใบเก่าออกก่อน
โยมเขาเห็นอาตมาอยู่หัวแถว เขาก็เอาบะหมี่ เอาน้ำ เอาขนม ทั้งหมด ๓ อย่างใส่มา อาตมาบอกว่าเอาชิ้นเดียว ถ้าใส่ครบชุดเดี๋ยวไม่ถึงท้ายแถว นี่ขนาดให้เณรบิณฑบาตวันละ ๑๐๐ รูปเท่านั้น อีก ๕๒ รูปให้อยู่ทำความสะอาดวัด แต่เณรอยากบิณฑบาตมากกว่าเพราะได้เงินเยอะดี โดยเฉพาะเณรตัวเล็ก ๆ
ตอนแรกบอกสามเณรมานพให้สึกแล้วบวชใหม่ จะได้มีพระอุปัชฌาย์เป็นเจ้าคุณ เณรไม่สนใจหรอก บวชแล้วเรื่องอะไรจะสึก ปรากฏว่าพอสึกแล้วบวชใหม่ เดินลงมาข้างล่าง โยมทำบุญไปเรื่อย ๆ นับปัจจัยได้เกือบพันบาท เณรมานพยิ้มแก้มปริ คราวนี้ให้สึกสักร้อยครั้งก็เต็มใจ..!
สามเณรมานพ (ซ้ายมือ) หัวหน้าเณรวัดท่าขนุน..!
อาตมาขอมติคณะสงฆ์ว่า เงินที่เณรบิณฑบาตนี้ ขอมอบให้เณรเอาไปใช้ตอนเป็นฆราวาสหลังจากสึกไปแล้วได้ คณะสงฆ์สาธุการให้ก็ไม่ติดหนี้สงฆ์แล้ว เณรก็เลยมีกำลังใจแย่งกันออกบิณฑบาต แต่พวกตัวเล็ก ๆ นี่อย่าให้เดินนำหน้านะ ถ้าเดินนำหน้า พระอด..!
บางคนเหมือนอย่างกับเกิดมาเพื่ออย่างนี้โดยเฉพาะ พอบวชเข้าไป โอ้โห..ดูดีไปหมด ญาติโยมเห็นแล้วอยากทำบุญ บางทีแถวเณรเดินเลยไปแล้วเป็นกิโล กว่าจะหาซื้อของได้ต้องวิ่งรถกระบะไปดักหน้า ไปใส่เอาข้างหน้าโน่น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2011 เมื่อ 17:43
|