ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 28-12-2011, 10:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,555 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ ที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ทุกคนตั้งกายให้ตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ใช้คำภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัยที่เราเคยทำและชำนาญ

การปฏิบัติกรรมฐานนั้น ถ้ายังไม่ถึงที่สุดของกองกรรมฐาน อย่าเพิ่งเปลี่ยนใหม่ เพราะว่ากรรมฐานทุกกองในเบื้องต้นนั้น ถ้าจะทำให้ถึงที่สุดต้องใช้ความขวนขวายเท่ากันทั้งหมด ยากลำบากเหมือนกันหมด แต่ถ้าทำได้แล้ว ๑ กอง ที่เหลือก็จะกลายเป็นของง่าย เพราะว่ากำลังในการปฏิบัติเท่ากัน เพียงแต่ว่าเราเปลี่ยนอุปกรณ์ เปลี่ยนคำภาวนาเท่านั้น

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานครั้งสุดท้ายของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ การที่ให้ทุกท่านกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกนั้น นอกจากจะสร้างสมาธิให้เกิดขึ้น เพื่อให้จิตมีกำลังในการตัดกิเลสแล้ว ที่สำคัญก็คือ ถ้าความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่กับลมหายใจเฉพาะหน้า ก็จะเป็นการอยู่กับปัจจุบันธรรม

การอยู่กับปัจจุบันธรรมนั้น จะทำให้การดำรงชีวิตของเรามีทุกข์น้อยมาก นอกจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติของร่างกายนี้แล้ว ทุกข์อื่นที่เกิดจากความคิดของเราจะไม่มี เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว ในปัจจุบันนี้เราทุกข์เพราะความคิดของตัวเอง คิดแล้วไม่สามารถที่จะหยุดความคิดนั้นได้ ส่วนใหญ่เราไปคิดโหยหาอดีต ไปฟุ้งซ่านถึงอนาคต แค่เริ่มคิดก็เริ่มทุกข์แล้ว

ในภัทเทกรัตตสูตร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อตีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ คือ บุคคลไม่บังควรหวนคำนึงถึงอดีต และไม่บังควรที่จะฟุ้งซ่านถึงอนาคต ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ การอยู่กับปัจจุบันธรรมเฉพาะหน้าเท่านั้น จึงจะทำให้รู้แจ้งเห็นจริงได้

การที่เราส่งความคิดไปในอดีต ก็เปรียบเหมือนกับรถยนต์ที่ออกจากท่ารถไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคร่ำครวญถึง เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะขึ้นได้ทัน แต่ถ้าเราส่งความคิดฟุ้งซ่านไปในอนาคต ก็เปรียบเหมือนกับรถยนต์ที่ยังไม่เข้าเทียบท่า เพราะยังไม่ถึงเวลาของตน เราไม่สามารถที่จะขึ้นเพื่อไปสู่จุดหมายได้เช่นกัน เราจึงต้องหยุดกำลังใจไว้ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ คือรถยนต์ที่เทียบท่าอยู่ตรงหน้าเรานี้ ต้องขึ้นรถยนต์คันนี้จึงจะไปสู่จุดมุ่งหมายของเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2011 เมื่อ 12:18
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา