ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 16-02-2009, 11:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,817 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default คุณค่าแท้ คุณค่าเทียม

ท่านเจ้าคุณพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต) ท่านสอนให้เราพิจารณาคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม

อย่างลูกเชอรี่..คุณค่าแท้ ๆ ก็คืออาหาร แต่คุณค่าเทียมแสดงออกว่า ฉันกินของแพง เข้าใจหรือยัง ?

นี่..อย่างนาฬิกา..คุณค่าแท้ก็คือเครื่องดูเวลา แต่คุณค่าเทียมก็อย่างพวกโรเล็กซ์เรือนละแสนกว่าบาท มีไว้ประดับฐานะ ซึ่งไม่มีความจำเป็นเลย เรือนละสามร้อยบาทก็ใช้ดูเวลาได้แล้ว แถมเวลาตกหล่นเราก็ไม่เสียดายด้วย ใส่โรเล็กซ์ไป อยู่ ๆ มืออาจจะขาด โดนคนอื่นชิงเอาไปจำนำแทน ดังนั้น..นักปฏิบัติเมื่อไปถึงระดับหนึ่งจึงเหมือนกับขวางโลก เพราะไม่เห็นประโยชน์ในสิ่งที่คนอื่นเขาเห็นกัน

นึกหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอรูปก่อน ตอนที่น้ำมันขึ้นลิตรละ ๑๓ บาท อาตมาก็โละรถเสียจนเกลี้ยงวัด ท่านบ่นว่า "อาจารย์เล็กบ้า มีรถดี ๆ ไม่รู้จักขี่.." อาตมาบอกท่านไปว่า "จะมีประโยชน์อะไรละครับ อาจารย์เล็กนั่งสองแถวเขาก็ว่าอาจารย์เล็กรวย หลวงพ่อนั่งรถเบนซ์เขาก็รู้ว่าหลวงพ่อยืมตังค์ผมเติมน้ำมัน..!" เพราะฉะนั้น..ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก

แต่ว่าปัจจุบันน่าเสียดายว่า บรรดานักบวชของเราหลงประเด็นไปเยอะ โดยเฉพาะหลายต่อหลายท่านที่บวชเข้ามา ตอนแรกตั้งใจมาเพื่อมาละกิเลส พออยู่ ๆ ไปกลายเป็นสะสมกิเลสโดยไม่รู้ตัว จากที่เคยทำเพื่อความสุขของคนอื่น เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ก็กลายเป็นว่าทำเพื่อความสุขของตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ยกตัวอย่าง สร้างกุฏิตัวเองราคาหลายล้าน แต่พระลูกวัดต้องไปยัดกันอยู่บนศาลา เอาจีวรมากั้นห้อง มีจริง ๆ และหลายวัดด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2014 เมื่อ 11:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา