พระอาจารย์กล่าวว่า "การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของปีนี้ รู้สึกว่าทั้งหน่วยราชการและประชาชนมีความตื่นตัวมาก ในเรื่องของการรับปีใหม่วิถีพุทธ คือมีการสวดมนต์ข้ามปีและเจริญกรรมฐาน
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดเพราะขาดการประสานงานกัน ในส่วนของกรุงเทพฯ ชาวบ้านส่วนใหญ่มาร่วมกันสวดมนต์ข้ามปีที่วัดสระเกศ แต่พอออกจากวัดมาหารถเมล์กลับไม่ได้ มีหลายร้อยคนต้องเดินข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ ใช้คำว่าหลายร้อยคนเพราะเดินเหมือนกับเดินขบวนกันเลย
ทางราชการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างความตื่นตัวให้กับชาวบ้าน แต่ไม่มีการจัดการขนส่งมวลชนมารองรับ เหมือนกับช่วงแรกที่เขาเห่อเรื่องบั้งไฟพญานาค รถติดอยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคายเกือบ ๓๐ กิโลเมตร โฆษณาให้คนไปเป็นหมื่นเป็นแสนแต่ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีที่พัก เอาแต่โหมโฆษณาอย่างเดียวโดยไม่มีแผนงานอื่นรองรับ
เรื่องที่จอดรถกับที่พักก็ยังพอทน แต่ห้องน้ำห้องส้วมจะไปหาที่ไหนเพราะคนเป็นหมื่น ๆ ที่ลำบากที่สุดก็บรรดาวัดวาอารามริมฝั่งโขง พอญาติโยมกลับกันไปทางนี้พระเณรก็เดือดร้อน ต้องเรียกหารถเทศบาลมาดูดส้วมกันอุตลุด เพราะส้วมล้นไปเลย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:44
|