๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒
วันนี้อารมณ์มีความคิดถึงครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน คิดไปว่า ท่านทรงกำลังใจในเพศบรรพชิตได้อย่างบริสุทธิ์งดงามได้อย่างไร .......
ขอหยิบยกเอาข้อความที่น้องเถรีโพสเอาไว้มาดังนี้ว่า
"ถึงแม้ในเรื่องมโนมยิทธิหรือการสัมผัสความเป็นทิพย์ต่าง ๆ ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์แล้ว โอกาสที่จะถูกหลอกมีเปอร์เซ็นต์สูง เพราะเรายังเป็นบุคคลที่มีอุปาทานอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เชื่อครูบาอาจารย์ที่นั่งอยู่ข้างหน้าเราดีกว่า เพราะอย่างไีรท่านก็หลอกเราไม่ได้ ถึงจะหลอกก็หลอกให้เราห่างจากความชั่ว แล้วเข้าหาความดีเท่านั้น"
รายละเอียดของความฟุ้งซึ่งนักปฏิบัติควรที่จะระวังไว้ นั่นคือ
ฟุ้งไปในความทะเยอะทะยานอยาก
๑. อยากจะมีความรู้ให้เลิศกว่าบุคคลอื่น
๒. อยากจะมีจริยาเด่นกว่าคนอื่น
๓. อยากมีฤทธิ์ อยากจะมีเดช
๔. อยากจะบรรลุมรรคผล ทำตนให้ถึงขั้นปฏิสัมภิทาญาณ
ครูบาอาจารย์ของกระผมอีกท่าน เคยกล่าวสอนกระผมเอาไว้ว่า
"สิ่งที่โยมคิดว่านั่นคืออาตมา โยมปรุงแต่งขึ้นมาเอง หลายต่อหลายครั้งที่โยมก้าวมาเกือบจะถึงอาตมาแล้ว แต่"ความอยาก"ของโยมมันเป็นอุปกิเลสขวางเอาไว้ จงเลิกอยาก วางความอยากลง ความอยากมันเหมือนกระดาษทึบบาง ๆ ถ้ามาบังตาเรา เราก็มองไม่เห็น วางอยาก เลิกอยาก อย่าอยาก"
หลังจากนั้นนานหลายเดือน ท่านก็ส่งข่าวมาอีกว่า "โยมทำได้ดีเกือบดีมากแล้ว โยมวางอยากลงได้จริง ๆ แต่โยมยังทรงมันให้นานไม่ได้ พยายามต่อไป อาตมาเอาใจช่วยโยมอยู่"
กระผมเคยตอบท่านไปว่า "กระผมคงดีอย่างที่หลวงพี่คิดไว้ไม่ได้ขอรับ"
ท่านตอบมาว่า "โยมทำสุดความสามารถของโยมหรือยัง ถ้าโยมทำสุดแล้วจริง ๆ ค่อยมานั่งเสียใจ แต่หากโยมยังทำไม่สุดความสามารถของโยมแล้ว อย่ามานั่งเสียใจเลย ทำมันต่อไป ตราบใดที่โยมยังมีลมหายใจอยู่ โยมยังมีเวลา และยังไม่สายที่จะทำมันต่อไปอาตมาเอาใจช่วยโยมอยู่เสมอ"
กระผมคิดถึงท่าน ในความเมตตาของครูบาอาจารย์แต่ละท่านนั้นหาประมาณมิได้ วันหน้าในเวลาอันใกล้นี้ กระผมกำลังเดินทางไปสู่
ร่มกาสาวพัสตร์ เจริญรอยตาม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อสู้กับกิเลสมารภายในใจตนเอง.........ขอพรแห่งครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ขอพระรัตนตรัยโปรดเป็นที่พึ่งอันประเสริฐแก่ลูกด้วยเทอญ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 01-06-2009 เมื่อ 06:39
|