ถาม : พระท่านหนึ่งสอนสมาธิผม ท่านบอกว่าให้กำหนดแค่กึ่งกลางตรงศีรษะ โดยไม่สนใจลมหายใจ ผมขอถามว่าอยู่ในกรรมฐานหรือเปล่า ?
ตอบ : ก็ลองทำดูสิ..แต่อะไรก็ตามถ้าไม่ได้ควบลมหายใจเข้าออก จะไม่ทรงตัวหรอก ยกเว้นอย่างเดียวว่า คุณซักซ้อมเรื่องของฌานสมาบัติจนกระทั่งคล่องตัวแล้ว คราวนี้จะกำหนดที่ไหนก็กำหนดไปเลย
ที่ท่านว่ามาอยู่ในลักษณะของคนทำเป็นแล้ว ไม่ใช่คนเพิ่งเริ่มหัด ถ้าเพิ่งเริ่มหัดต้องเอาลมหายใจเข้าออกด้วย ยกเว้นว่าคล่องตัว จะเอาสมาธิขั้นไหนก็เข้าได้เลย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปจับลมหายใจ จะเอาจิตไปอยู่ที่ส่วนไหนของร่างกายก็ไปได้
ถาม : ถ้าพระลูกวัดหรือเจ้าอาวาสท่านไม่ทำวัตรเช้าเย็นหรือบิณฑบาต ผิดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : แล้วแต่วัดท่าน เพราะว่ากติกาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องทำ เพียงแต่ว่าถ้าเราทำในเรื่องวัตรปฏิบัติต่าง ๆ จนกระทั่งเคยชินแล้ว เรื่องสมาธิอื่น ๆ จะทำได้ง่าย เนื่องจากเคยชินกับการโดนบังคับแล้ว เพราะฉะนั้น..การมาบังคับใจจะทำได้ไม่ยาก แต่อย่างพวกที่ไม่เอาเรื่องวัตรปฏิบัติอะไรเลย แล้วจะมาฝึกสมาธิก็เหมือนกับควายเปลี่ยว ต้อนควายเปลี่ยวเข้าคอกก็ดิ้นตาย
ถาม : แล้วถ้ามีพระจูงมือลูกวัด ซึ่งเป็นจริยาที่ไม่สมควร ท่านมีความผิดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าผิด เขาปรับอาบัติทุกกฎเท่ากับจับเงิน เขาถือว่ากายสังสัคคัง คือมีการสัมผัสระหว่างกายกัน ผู้ชายต่อผู้ชายท่านก็ห้าม ที่พระพุทธเจ้าท่านห้ามเพราะท่านรู้ว่าสมัยนี้จะมีพวกชายไม่แท้เยอะ..!
ถาม : ถ้าท่านจับเหมือนกับเป็นลูกเป็นหลานครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เจตนา แล้วแต่ใครจะมองมุมไหน
คนเราดีแสนดี คนจะติก็หามาติจนได้ ไม่ต้องไปใส่ใจแทนท่านหรอก เขาบอกว่าพระพุทธชินราชสวยที่สุดในโลก ลูกอีช่างติก็ยืนมอง ๆ มองซ้ายมองขวา ตะแคงซ้ายตะแคงขวาเสร็จก็บอกว่า “เออ..ก็สวยดีอยู่หรอก เสียอย่างเดียวพูดไม่ได้..!” หาเรื่องติจนได้ เพราะฉะนั้น..ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขาเถอะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2012 เมื่อ 03:00
|