ถาม : (มีโยมป่วยหนักนอนที่โรงพยาบาล)
ตอบ : บอกท่านว่าตัดใจให้ได้ พูดข้างหูก็ได้ น่าจะฟังได้ยิน เพราะว่าถ้าวางร่างกายไม่ได้ก็จะไม่ตาย คนที่อธิษฐานขอพระนิพพานไว้นี่ตายยาก ต้องตัดร่างกายได้จริง ๆ เพราะคำอธิษฐานค้ำไว้
บอกข้างหูก็ได้ว่าไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ตัดใจไปอยู่กับหลวงพ่อที่พระนิพพานเลย ถ้าหากว่าตัดไม่ได้ก็ยังอยู่อย่างนั้น อาตมาเจอมาหลายรายแล้ว ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก ถามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจึงบอกว่า ถ้าหากว่าไม่ทรมานมาก ๆ ก็ตัดใจไม่ได้ จึงต้องทรมานกันหนักหน่อย บอกเขาให้รีบตัดใจเสีย พูดกรอกหูไปเลย
ถาม : หมายถึงว่าถ้าเขาวางร่างกายไม่ได้จะไม่ตายหรือครับ ?
ตอบ : ก็เขาไปขอพระนิพพานเอาไว้ คนตัดร่างกายไม่ได้ก็ไปพระนิพพานไม่ได้ กำลังบุญที่ตัวเองสร้างไว้ค้ำอยู่อย่างนั้น ก็ทรมานไปสิ
บุคคลที่อธิษฐานขอพระนิพพาน ทำบุญอะไรก็ขอพระนิพพานในชาตินี้ แต่ขาดการพิจารณาเพื่อที่จะละวางร่างกายนี้ เมื่อขาดการพิจารณา กำลังใจยังตัดไม่ได้ เจ็บป่วยขนาดไหนก็ทรมานอยู่นั่นแหละ เพราะไปขอพระนิพพาน กำลังบุญกับแรงอธิษฐานค้ำเอาไว้ ยังไม่ถึงพระนิพพานก็ทรมานอยู่นั้นแหละ เพราะฉะนั้น..ใครรู้ตัวก็รีบพิจารณาเยอะ ๆ จะได้ตัดใจได้ ถ้าละร่างกายได้ก็ไปเลย ไม่ต้องทรมาน
ท่านย่าเคยบอกไว้ว่า “พวกแกขอพระนิพพานชาตินี้ ถ้าขี้เกียจพิจารณา ก่อนตายปวดสาหัสทุกคน เพราะต้องบังคับให้เห็นว่าร่างกายนี้เป็นโทษ ถ้าไม่ปวดสาหัสขนาดนั้นก็ยังคิดว่าตัวกูของกูอยู่นั่นแหละ” ฉะนั้น..พิจารณาไว้เยอะ ๆ จะได้ไม่โดน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2012 เมื่อ 17:59
|