แต่ถ้าเราดูสภาพสังคมของเรา เข้าแถวซื้อไอแพดสามยาวเป็นกิโลเมตรเลย ปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยของต่างประเทศ อย่างเช่น อังกฤษ มีหลักสูตรการศึกษาวิปัสสนาภาวนา เป็นวิชาที่ไม่ต้องสอบ แต่ต้องมีเวลาเรียนครบตามที่เขาระบุไว้ ระหว่างที่เรียนห้ามแต่งตัว ห้ามใช้เครื่องประดับ ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ
เหลือเชื่อว่ามีเด็กลงทะเบียนเรียนมากกว่าที่คิด มีอยู่สองรายที่พอรู้ว่าห้ามใช้ไอแพดไอโฟน ก็ถอนชื่อออกจากทะเบียน เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่คาดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้น แต่ว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเรียน กลับเห็นคุณค่าของการปฏิบัติตัวให้สันโดษ อยู่ในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือสื่อสาร ผู้หญิงผู้ชายห้ามสัมผัสถูกต้องเนื้อตัวกัน ห้ามกอดกัน ห้ามมองตากันนาน ๆ สงสัยกลัวจะท้องแบบปลากัดกระมัง ?
อ่านกติกาเขาแล้วก็ขำ ๆ ดีเหมือนกัน แต่ว่าบ้านเราที่เป็นต้นกำเนิดของวิปัสสนาภาวนาแท้ ๆ เป็นประเทศที่ปัจจุบันน่าจะมีความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาติดอันดับต้น ๆ ของโลก กลับไปไล่ตามไขว่คว้าเทคโนโลยีต่าง ๆ ส่วนฝรั่งต่างชาติทิ้งเทคโนโลยีแล้วกลับเข้าหาการอยู่การกินอย่างธรรมชาติ เราต้องคิดดูให้ดีว่า ถ้าเราเชื่อว่าฝรั่งเก่งกว่า มีเทคโนโลยีสูงกว่า มีความเจริญมากกว่า มีความฉลาดกว่า แล้วกลับมาดำเนินชีวิตแบบพออยู่พอกิน ขณะที่คนไทยเราตะเกียกตะกายไขว่คว้าสิ่งที่ฝรั่งโยนทิ้งแล้ว อย่างนั้นพวกเราทำถูกหรือเปล่า ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2013 เมื่อ 03:23
|