ดูแบบคำตอบเดียว
  #33  
เก่า 09-07-2012, 12:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,016 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของภาษาพอนาน ๆ ไปก็เพี้ยน เพราะว่าไม่มีใครเข้าใจรากศัพท์ที่มา อย่างกาญจนบุรีเขามีหนองยั้งช้าง ปัจจุบันนี้เป็นหนองย่างช้าง ยั้งช้างก็คือเวลาเดินทางเอาช้างไปหยุดพักที่นั่น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำ เป็นที่อาศัยกว้างขวาง เป็นที่พักกลางทางได้ จึงเป็นหนองยั้งช้าง ปัจจุบันนี้คงหิวมากจึงย่างช้างกินกันเลย

อย่างเขานกเจ่า เพราะมีนกมาเกาะพัก ตอนนี้กลายเป็นเขานกจ้าว ไม่รู้เชื้อพระวงศ์ที่ไหนไปเลี้ยงนกที่นั่น พอนาน ๆ ไปภาษามีความเพี้ยนมากขึ้น แทนที่บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตจะช่วยกันรักษาเอาไว้ ดันยิ่งเปลี่ยนกันให้พินาศหนักเข้าไปอีก

ทุกวันนี้หนังสือไทยที่อาตมาเรียนมาสมัย ป. ๑ - ๔ ใช้ไม่ได้เยอะเลย เขาแก้ไขจนกระทั่งทุเรศทุรังไปหมด แบบเดียวกับสิงโต เขาตัด “ห์” ออก คำว่า "สิงห์" มาจาก "สิงห" เป็นภาษาบาลี ต้องมี "ห์" พอแผลงเป็นไทยเป็นสิงโต เขาบอกว่าในเมื่อเป็นไทยแล้วทำไมแล้วต้องลากไปบวชเป็นบาลีด้วย ก็เอา "ห์" ออก

สมัยอาตมาเด็ก ๆ ใช้ ข้าวโภชน์ มาจากโภชนะ แล้วตอนหลังมาเปลี่ยนเป็นข้าวโพด สับปะรดก็เหมือนกัน ก่อนหน้านั้นเป็น สัปตรส แปลว่า ๗ รส ลองไปชิมสับปะรดให้ดี ๆ มีรสอะไรบ้าง เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด..ไม่ใช่เผ็ดธรรมดานะ เผ็ดสับปะรดเผ็ดกัดลิ้น จืด ขม มี ๗ รสจริง ๆ

"สัปตะ" กลายเป็น "สับปะ" ซึ่งแปลว่า งู แถมยังเปลี่ยนจาก "รส" เป็น "รด" ดังนั้น..สับปะรดในปัจจุบัน หมายถึง เอาน้ำไปราดงู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2012 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา