"เรื่องนี้พระพุทธเจ้าท่านตรัสในมหากัมมวิภังคสูตรว่า บุคคลผู้ตั้งใจปฏิบัติภาวนา ทรงฌานสี่ได้ ยังทิพจักขุญาณให้เกิดขึ้น สามารถรู้เห็นนรกสวรรค์ แล้วกล่าวว่าบุคคลทำความดีไปสวรรค์โดยส่วนเดียว บุคคลทำความชั่วไปนรกโดยส่วนเดียว ตถาคตขอกล่าวว่าไม่ใช่
ท่านบอกว่า บุคคลผู้ทำดีในอดีตทำชั่วในปัจจุบัน...ไม่แน่ว่าจะไปชั่ว ตัวอย่างคือมัฏฐกุณฑลีเทพบุตร ในอดีตเคยทำดีมาก่อน เคยสร้างพระพุทธรูป อานิสงส์มาส่งผลในชาติปัจจุบันที่ชั่วแสนชั่ว แต่มาทันในวินาทีสุดท้าย เพราะฉะนั้น
ในอดีตทำดี...ในปัจจุบันทำชั่ว....ไม่แน่ว่าจะไปชั่ว
ในอดีตทำชั่ว....ปัจจุบันทำชั่ว....ไปชั่วแน่นอน
ในอดีตทำดี....ปัจจุบันทำดี......ไปดีแน่นอน
ในอดีตทำชั่ว....ปัจจุบันทำดี......ไม่แน่นักว่าจะไปดี
ตัวอย่างก็คือนางมัลลิกาเทวี ทำความดีมาตลอดชีวิต ก่อนตายจิตเศร้าหมองระลึกถึงกรรมเก่าของตนเอง จึงตกนรกเสีย ๗ วัน ท่านถึงได้บอกว่าเห็นนรกสวรรค์แล้วอย่าได้บอกว่าคนที่ทำดีแล้วไปสวรรค์ คนที่ทำชั่วแล้วไปนรก ไม่แน่
อดีตดี......ปัจจุบันดี..........ถึงจะไปดี
อดีตชั่ว.....ปัจจุบันชั่ว......ถึงจะไปชั่ว
อดีตดี......ปัจจุบันชั่ว......ไม่แน่ว่าจะไปชั่ว
อดีตชั่ว.......ปัจจุบันดี.....ไม่แน่ว่าจะไปดี
เพราะว่าแล้วแต่วาระกรรมมันจะส่งผลเมื่อไหร่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 23-06-2015 เมื่อ 13:33
|