"สมเด็จกรมพระยาบำราบปรปักษ์ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ท่านเป็นผู้ที่ใฝ่บุญมาก จัดทำบุญเลี้ยงพระและฟังเทศน์ที่บ้าน ๓ วัน ๓ คืน แล้วนิมนต์ท่านเจ้าคุณพระพิมลธรรม (อ้น) วัดมหาธาตุ กับท่านเจ้าคุณพระธรรมกิตติ (โต) วัดระฆัง ไปในงานด้วย
ท่านเจ้าคุณพระพิมลธรรม (อ้น) เทศน์ปฐมสมโพธิกถาว่า เมื่อกาฬเทวิลดาบสได้ข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะประสูติจึงรีบไปดู ตอนนั้นกาฬเทวิลดาบสนอนอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เห็นเทวดานางฟ้าอื้ออึงกัน ก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ? พอสอบถามดูจึงรู้ว่าพระมหาโพธิสัตว์เจ้าประสูติแล้ว จึงรีบเหาะลงมา อาศัยความคุ้นเคยกับพระเจ้าสุทโธทนะ เข้านอกออกในพระราชวังได้ ก็เลยเข้าไปจนถึงด้านใน
พอเห็นมหาปุริสสลักษณะของสิทธัตถะราชกุมารจึงหัวเราะและร้องไห้ พระเจ้าสุทโธทนะตรัสถามว่าทำไมถึงหัวเราะและร้องไห้ ? กาฬเทวิลดาบสบอกว่า หัวเราะเพราะดีใจที่ในชีวิตได้ทันเห็นมหาปุริสสลักษณะที่สมบูรณ์พร้อมขนาดนี้ บุคคลที่เป็นศาสดาเอกของโลกได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ที่ร้องไห้ก็เพราะอายุมากจนป่านนี้แล้ว ไม่มีโอกาสได้อยู่ทันท่านเผยแผ่ธรรมะ และไม่ได้รับผลของธรรมนั้นด้วย เพราะตายแล้วก็จะต้องไปเกิดในอรูปพรหม
แต่สมเด็จกรมพระยาบำราบปรปักษ์มีปัญญามาก ท่านจึงสงสัย ถามพระพิมลธรรม (อ้น) ว่า “พระคุณเจ้าขอรับ..ฌานโลกีย์เสื่อมได้ไม่ใช่หรือ ? ” พระพิมลธรรม (อ้น) ก็รับรองว่าเสื่อมได้ สมเด็จกรมพระยาบำราบปรปักษ์ตรัสว่า “แล้วทำไมกาฬเทวิลดาบสไม่ทำลายอรูปฌานเสีย แล้วไปเกิดเป็นรูปพรหม อย่างไรก็ทันเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้อยู่แล้ว เพราะถ้าไปเกิดเป็นอรูปพรหม ถึงเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ ตนเองก็ไม่มีโอกาสรับรู้" ท่านเจ้าคุณพระพิมลธรรม (อ้น) น็อกคาสนามเลย ไปต่อไม่เป็น แล้วพวกเราคิดว่าอย่างไร...? "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-07-2012 เมื่อ 13:23
|