เรื่องของประชามตินี่ใครชัดเจนบ้างว่า ถ้าไม่ไปออกเสียงแล้วจะมีการตัดสิทธิ์อะไรบ้างไหม ? ไม่มีใช่ไหม ? ถ้าอย่างนั้นก็ต้องแล้วแต่จิตสำนึกของแต่ละท่าน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า พระเราอยากจะออกเสียงบ้าง แต่ทุกครั้งที่มีการออกเสียงเมื่อไร ก็จะมีหนังสือของราชการขอแสดงความนับถือไปถึงทุกครั้ง ว่าให้พระวางตัวเป็นกลางและห้ามออกเสียง
อาตมาเองไปอบรมกฎหมายเพื่อประชาชน เคยยกมือถามท่านอาจารย์ที่มาอบรมว่า ในเมื่อถึงเวลาแล้วคุณตัดสิทธิ์บุคคลที่ไม่ไปลงคะแนน แต่พอเขาจะไปลงคะแนน คุณกลับไม่ให้เขาลง แปลว่าอะไรวะ ? เขาก็ถามว่าพระอาจารย์หมายถึงอะไรครับ ? ก็คือมีการเลือกตั้งอยู่ครั้งหนึ่งที่อยู่กลางพรรษาพอดี แล้วพระหลายรูปท่านบวชเอาพรรษา ไม่สามารถที่จะไปลงคะแนนได้ พอออกพรรษาสึกไปเป็นฆราวาสแล้วโดนตัดสิทธิ์
อาตมาเองชอบสร้างความปวดหัวให้แก่บรรดาวิทยากรต่าง ๆ เป็นประจำ ก็เลยถามท่านว่า เขาเอากฎหมายข้อไหนมาตัดสิทธิ์พระ ? ท่านอัยการนั่งกุมขมับ ท้ายที่สุดก็บอกว่า ยังนึกไม่ออกอยู่เหมือนกัน ขอติดไว้ก่อน จะไปค้นมาให้ ๑๒ ปีผ่านมาแล้ว จนป่านนี้อาตมายังไม่ได้คำตอบเลย แต่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะเป็นอย่างนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าเกรงว่าถ้าพระลงคะแนนให้ใคร จะกลายเป็นการชี้นำไปโดยปริยาย ก็เลยไปตัดสิทธิ์พระ ทั้งที่ไม่มีกฎหมายอะไรที่ระบุให้ตัดสิทธิ์ได้
ความจริงถ้าพระทั้งประเทศพร้อมใจกันฟ้อง อาตมาว่า กกต.คงไม่แค่หัวหงอกหรอก แต่คงจะหัวล้านกันหมด เพราะคงนับคดีกันไม่ถ้วน พูดไปพูดมาจะพาโยมเดือดร้อนกันหรือเปล่า ? อาตมาเองไม่กลัวหรอก เพราะชอบที่มีองครักษ์ตามเยอะดี...! ไปไหนก็ปลอดภัย แล้วทุกคนก็ต้องคอยประคับประคอง กลัวว่าพระอาจารย์จะเป็นอะไรไป เดี๋ยวหมู่ลูกศิษย์จะโมโหเดือดขึ้นมา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2016 เมื่อ 20:30
|