ดูแบบคำตอบเดียว
  #279  
เก่า 20-05-2015, 17:07
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ระดับจิตของพระอนาคามี


เทศนาอบรมพระคราวหนึ่งขององค์หลวงตา กล่าวถึงวิธีการปฏิบัติเมื่อระดับจิตได้ขาดจากกามราคะลงไปแล้ว ดังนี้

...ในธรรมขั้นนี้ประจักษ์แล้ว ทีนี้เมื่อมันประจักษ์แล้วจะหายสงสัยเอง เรื่องกิเลสตัวนี้เป็นมาจากอะไร จากนั้นก็พยายามตั้งภาพอันนั้นแหละ ที่เราเคยพิจารณาเป็นมาตลอดนั้น ตั้งขึ้นไว้อย่างเก่านั้นแหละ แล้วมันจะหมุนตัวเข้ามา ๆ ในหัวใจของเรา ทีนี้เร็วขึ้น ๆ นี่การฝึกซ้อมปัญญาทางด้านกามกิเลส อสุภะอสุภังเป็นของสำคัญมาก


จากนี้แล้ว สภาพอันนี้ฝึกซ้อม มันปรากฏขึ้นมาช้าเร็วขนาดไหนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เอาสภาพที่เราเคยกำหนดไว้นี้แล้ว ว่าเป็นการฝึกซ้อมให้มีความชำนิชำนาญในขั้นนี้ให้จงได้ นี่ละ.. พอได้ที่แล้วก็ฝึกซ้อมเรื่อย จิตใจจะละเอียดเข้าไปเรื่อย ในภาพเหล่านี้ก็จะละเอียดเข้าไป ๆ นี่แหละ พระอนาคามี ท่านจึงไม่ลงมาเกิดอีก คือกามกิเลสนี้เป็นตัวสำคัญ มีแต่ดึงลง ๆ ท่าเดียว หมุนลงท่าเดียว ให้สัตว์ทั้งหลายได้รับความทุกข์ทรมาน เพราะกด เพราะถ่วง บีบบี้สีไฟอย่างลึกลับภายในจิตใจอยู่นั้นแล

ทีนี้เมื่อเวลาได้เข้าใจในนี้แล้ว จิตใจของเราเมื่อได้ระดับแล้ว เป็นที่แน่ใจ เอาละ..ทีนี้หมดแล้ว ขาดจากกันแล้ว ทีนี้ฝึกเข้าไป ซ้อมเข้าไป จิตอันนี้จะมีความชำนิชำนาญไปอีกขั้นหนึ่ง มีความละเอียดไปอีกขั้นหนึ่ง ๆ เอา ฝึกซ้อมเข้าไปเรื่อย ๆ นี้เองที่เป็นสักขีพยานตามที่ท่านแสดงไว้ในอรรถในธรรมว่า

พระอนาคามีนั้น เมื่อบรรลุถึงขั้นอนาคามีแล้ว ท่านจะไม่กลับมาเกิดอีก คือจิตดวงนี้จะไม่ถูกกด ถ่วงดึงลงเหมือนแต่ก่อนเมื่อมีกามราคะผูกพันอยู่ พอหลักใหญ่ของกามราคะขาดลงไปแล้ว เรียกว่าสอบได้แล้ว ๕๐% นี่หมายถึงฐานะของเราผู้เป็นเนยยะ ผู้ได้รู้ช้ารู้เร็ว จึงบอกลำดับลำดาไว้

พอได้รู้ชัดเจนแล้ว จิตใจนี้จะไม่หมุนลงนะ ไม่มีอะไรมาดึงใจนี้ลง มีกามกิเลสเท่านั้นดึงลง ๆ ตลอดเวลา พอกิเลสขาดออกไปในขั้นนี้แล้ว จิตจะค่อยหมุนขึ้นเป็นลำดับ พิจารณาฝึกซ้อมจิตใจดวงนี้แหละด้วยอสุภะ ดังที่เคยปฏิบัติมานั้น.. จิตใจจะละเอียดลงไป ๆ และความหมุนตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ ละเอียดขึ้นเรื่อย ๆ นี่ละ.. พระอนาคามีที่ผ่านไม่กลับมาเกิด ก็คือมีกามกิเลสอันเดียวนี้เท่านั้นดึงลง มาสู่นรกอเวจีได้เพราะกามกิเลส พออันนี้ขาดลงไปแล้วจิตใจจะเบาลงไป ๆ เบาจนกระทั่งเบาหวิว ๆ กำหนดพับ ๆ ซักฟอกตัวเอง ๆ ในส่วนที่เป็นมลทินอันละเอียดติดแนบอยู่กับจิต ซึ่งอยู่ในขั้นอนาคามีที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ มลทินเหล่านี้จะค่อยกระจายละเอียดลงไป ๆ ด้วยการฝึกซ้อมของเรา

พอละเอียดเข้าไปเท่าไร.. จิตยิ่งหมุนสูงขึ้น ๆ เรื่อย อย่างที่ท่านเทียบไว้ในสุทธาวาส ๕ ชั้น อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา นี่แหละ ระดับพระอนาคามี พอได้ระดับเบื้องต้นที่ว่าสอบไล่ได้แล้ว หากว่าตายก็จะไปเกิดในอวิหา แล้วเลื่อนไปอตัปปา ละเอียดเข้าไปก็สุทัสสา เข้าสุทัสสี ละเอียดเข้าไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตายก็รู้เป็นลำดับ ละเอียดเข้าไปเต็มที่แล้วขึ้นอกนิฏฐา นี่เป็นชั้นที่ ๕ ของสุทธาวาส ๕ ชั้น พอจากชั้นนี้แล้วก็ดีดผึงก้าวเข้าสู่นิพพาน เพราะฉะนั้น พระอนาคามี.. เมื่อสำเร็จเป็นพระอนาคามีแล้ว ท่านจึงไม่กลับมาเกิดอีก ถ้าว่าเกิดก็ไปเกิดในอวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสีเรื่อยไป แล้วพร้อมที่จะไม่กลับคืนมา ไปจนกระทั่งทะลุพระนิพพานไปเลย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2015 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา