ดูแบบคำตอบเดียว
  #44  
เก่า 01-06-2018, 09:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างปัจจุบันนี้ ในบ้านเราก็มีพวกพุทธวจนะขึ้นมา ซึ่งท่านถือพระวินัยปิฎก มีศีล ๑๕๐ ข้อ ทั้ง ๆ ที่ศีลพระมี ๒๒๗ ข้อ โดยที่กล่าวอ้างว่ามีปรากฏชัดอยู่ในพระสูตร ซึ่งนั่นก็ใช่ แต่เป็นลักษณะของการอ่านพระไตรปิฎกไม่ครบ แล้วก็มั่วเอาเอง อย่างเช่นเราจะประกาศว่า กฎหมายข้อนี้ไม่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ เราจะไม่ปฏิบัติตาม อาตมารับประกันว่าติดคุกหัวโต เพราะว่ารัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ โดนแก้ไขมา ๒ รอบแล้ว รวมทั้งรอบนี้

ท่านไปเอาเนื้อหาในพระสูตรที่กล่าวถึงศีลพระในระยะแรก ๑๕๐ ข้อมา แล้วไปยึดมั่นถือมั่นว่ามีแค่นั้น โดยที่ไม่ได้ดูว่าพระพุทธเจ้าท่านบัญญัติเพิ่มเติมขึ้นมาอีกตั้งหลายสิบข้อ นั่นคือลักษณะของบุคคลที่เรียนแบบอลคัททูปมปริยัติ ก็คือศึกษาแบบจับงูข้างหาง มีแต่จะโดนงูกัดตาย

การศึกษานั้น ในบาลีแบ่งออกเป็น ๓ ประเภทคือ อลคัททูปมปริยัติ คือการศึกษาแบบจับงูข้างหาง มีแต่เกิดโทษแก่ตัวเอง เดือดร้อนแก่ตัวเอง

ประการที่ ๒ เรียกว่า ภัณฑาคาริกปริยัติ คือการเรียนแบบคลังสะสมความรู้ ก็คือเก็บรักษาความรู้ไม่ให้สูญหาย เป็นการพยายามท่องจำศึกษาเอาไว้ แต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ แก่ตน นอกจากจำได้

ประเภทสุดท้าย เรียกว่า นิสสรณัตถปริยัติ คือการศึกษาเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ มีแต่ท่านประเภทนี้เท่านั้น ที่มีโอกาสได้เข้าถึงรสพระธรรมอย่างแท้จริง

ดังนั้น ในส่วนของพุทธวจนะนั้น เป็นการที่ทางวัดนั้นเข้าใจผิดเกี่ยวกับพระไตรปิฎก แล้วก็ไปแอบอ้างว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ เพราะอ่านพระไตรปิฎกไม่ครบถ้วนยังไม่พอ ยังไม่มีความรู้จริง เนื่องจากว่าปฏิเสธคำสอนของครูบาอาจารย์จนโดนตัดออกจากสายการปฏิบัติ ก็ยังคงไม่ยอมกลับตัว ยังคงประพฤติปฏิบัติแบบเดิมต่อไป​ ซึ่งจะมีโทษแก่ตัวเองและผู้ที่ติดตามอีกด้วย

เรื่องพวกนี้ถ้าเราสามารถชี้แจงให้ญาติโยมรู้ได้อย่างชัดเจน เรื่องที่จะเป็นโทษก็จะไม่มีทั้งทางฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส แต่ถ้าหากว่าเราศึกษาไม่ครบ แล้วก็ยังไปแอบอ้างผิด ๆ นอกจากตัวเราจะเกิดโทษแล้ว ยังพาให้ญาติโยมที่ติดตามหลงออกนอกทางไปไกล มีสิทธิ์ที่จะหลุดออกนอกวงโคจร เข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ยากมาก ๆ เพราะว่าในส่วนของการปฏิบัตินั้น จะมีมารคือผู้ขวางอยู่ตลอดเวลา ถ้าเขาเขี่ยเราพ้นทางได้เมื่อไร เขาก็จะสกัดไม่ให้กลับเข้าทางได้อีก โอกาสที่ท่านจะได้มรรคผลชาตินี้ก็เป็นหมัน ถ้าหากว่าพลาดจากชาตินี้โดยมีมิจฉาทิฐิอยู่ในกมลสันดาน ก็จะพลาดในชาติต่อ ๆ ไปอีกนับชาติไม่ถ้วน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-06-2018 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา