ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 29-04-2024, 15:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,484 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่แล้วพวกเราเคยชินกับภาษา แต่ถ้าให้แปลจริง ๆ มักจะไปกันไม่เป็น เอาแค่ประสิทธภาพกับประสิทธิผลเราก็ไปไม่เป็นแล้ว คนนี้ทำงานมีประสิทธิภาพมาก คนนี้ทำงานมีประสิทธิผลดี คืออะไร ? ประสิทธิภาพคือความสามารถที่คุณทำ จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่เราว่าเก่งแค่ไหน ประสิทธิผลคือทำแล้วได้เท่าไร

ตอนนี้ค่าแรงขั้นต่ำ ๔๐๐ บาทแล้วนะ แต่ทำไมปริญญาตรีขั้นต่ำยังหมื่นห้าอยู่เลย ไม่ขยับสักที

หรือไม่ก็ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ฟังดูดี ๆ ทั้งนั้น แล้วแปลว่าอะไร ? ศีลธรรม คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติเอาไว้ ประกอบไปด้วยความดีงามที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ใครปฏิบัติสามารถทำได้ จนกลายเป็นที่เชื่อถือของผู้อื่น เขาเรียกว่าคุณธรรม คือความดีเฉพาะตนของคนนั้น เมื่อบุคคลเห็นว่าบุคคลนั้นทำความดี อยากจะทำตาม เมื่อมีผู้ทำตามเขาเรียกว่าจริยธรรม ก็คือผู้นั้นเป็นแบบอย่างแก่คนอื่นได้

ภาษาไทยเป็นภาษาที่ยากมาก เพราะฉะนั้น..อย่าไปเชื่อฝรั่งที่บอกว่า "ภาษาไทยง่ายนิดเดียว" ฝรั่งคนไหนพูดว่า "ใครขายไข่ไก่" ได้โดยไม่ผิดเลยนั่นถึงจะเก่งจริง..! แต่อาตมาเคยเจอทั้งฝรั่งอู้กำเมือง ทั้งฝรั่งเว้าลาว ลื่นน้ำไหลไฟดับ เขาถามด้วยนะว่า "ผมเว้าอีสานนี่ ฟังกันออกบ่ ? ผมพูดไทยกลางแล้วเหนื่อย" ก็คือสำเนียงอีสานหรือสำเนียงลาวเป็นสำเนียงสากลมากกว่าสำเนียงไทย ฝรั่งสามารถออกสำเนียงอีสานได้ชัดมาก แต่ออกสำเนียงไทยภาคกลางไม่ได้ ประหลาดดีเหมือนกัน

มีคนส่งรูปพระสงฆ์โดนประแป้งเสียหัวหูขาวโพลนไปหมดมาให้ดู ถามว่าได้บาปหรือได้บุญ ? หลวงตาท่านนี้ถูกประแป้งเสียขาวไปทั้งหัว ไม่ใช่ว่าผมท่านขาวนะ นั่นแป้งทั้งนั้น โอ้โห..โดนทั้งวัดเลย..เวรกรรม..! คือคนเราสมัยนี้ไม่ค่อยรู้กาละเทศะ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ไม่รู้ว่าพ่อแม่ไม่อบรมหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ?

อย่างเราสรงน้ำพระ อาตมาก็ถวายน้ำสรงที่พระหัตถ์ อย่างเก่งก็ที่หน้าตัก เจอเด็กรุ่นใหม่ตักรดพระเศียรโครมเลย ภูมิใจมากว่าได้สรงน้ำพระแล้ว ราดเศียรพระพุทธรูปเลย..! เศียรอย่างเดียวไม่พอ ได้พวงมาลัยก็เอามาคล้องคอพระ ดูแล้วเหมือนนักร้อง..!

ถ้าสภาพจิตของเราละเอียดสักหน่อย เราก็จะรู้ว่าไม่สมควร แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ไม่มีใครกล้าพูด ไม่มีใครกล้าบอก กลัวเขาจะไม่เข้าวัด ส่วนวัดท่าขนุนกลัวเขาจะเข้าวัด..! คนพวกนี้มาก็มาป่วนวัดเสียเปล่า ๆ เพราะฉะนั้น..ด่า ๆ ไปตั้งแต่แรก ถ้าเปลี่ยนแปลงได้ก็เป็นความดีของเขา ถ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เขาไม่มาวัดก็ดี เพราะคนประเภทนี้เราก็ไม่อยากให้มาอยู่แล้ว..!

คุยมาทั้งเช้าเดี๋ยวจะเอาอะไรไปเทศน์ ? คุยไปหมดแล้ว..! อาตมาไปไหนมาไหนถือแก้วเก็บอุณหภูมินี้ไปด้วย คนอื่นเห็นเขาบอก "หลวงพ่อติดกาแฟ" บนแก้วเขียนว่า Starbucks (สตาร์บัคส์) แต่ข้างในมีแต่น้ำร้อน ถ้ากาแฟแก้วใหญ่ขนาดนี้..เขาเอาไว้อาบ..ไม่ได้ไว้กิน..!

ศาลาหลังนี้สร้างปีเสร็จปี ๒๕๕๖ ปีนี้ ๒๕๖๗ ผ่านมา ๑๑ ปีแล้ว ที่จำได้เพราะว่าพอสร้างศาลาเสร็จ ก็วางโครงการหล่อพระพุทธรูปทองคำ จำได้ว่าเริ่มเปิดรับบริจาคทองคำปี ๒๕๕๖

ตอนแรกที่ออกแบบศาลา บอกกับผู้ออกแบบว่าให้ร่างแบบศาลาแบบนี้..แบบนี้..แล้วให้เอามาให้ดู เขาถามว่า "ทำไมต้องสูงขนาดนี้ ?" ตอบไปว่า "ในนี้มีทั้งมณฑป มีทั้งศาลา" เขานึกภาพให้ตายเขาก็นึกไม่ออก แต่ตอนนี้พอเห็นมณฑป เห็นศาลาแล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่า อ๋อ..ออกมาจะเป็นอย่างนี้

แสดงว่าสถาปนิกนี่สู้ "สถาปนึก" ไม่ได้
"สถาปนึก" เห็นภาพหมดแล้วว่าจะออกมาอย่างไร ในขณะที่สถาปนิกยังออกแบบไม่เป็นเลย อธิบายแล้วอธิบายอีกก็ยังไปไม่เป็น ขอยืนยันว่าวิศวกรโครงสร้างหรือสถาปนิกนี่ฟุ้งซ่านทุกราย..! ถึงเวลาออกแบบจะต้องดูว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ? มีแนวคิดอย่างไร ? ยุ่งฉิบ..เขียนแบบไปเลยไม่ได้หรือวะ..?

คราวนี้ส่วนใหญ่ที่นี่เขาจะไปสรงน้ำพระกันวันที่ ๑๖ หรือ ๑๗ เพราะเขารู้ว่าวันที่ ๑๕ คนส่วนใหญ่จะมาสรงน้ำพระกันที่วัดท่าขนุน ก็เลยต้องหลีกวัดท่าขนุนหน่อย ถ้าขืนจัดตรงกันเดี๋ยวจะเหมือนกับประเทศเขมร จัดสงกรานต์ตรงกับประเทศไทย แถมยังไป "เคลม" ว่าสงกรานต์มีกำเนิดมาจากเขมร เล่นเอาคนหัวเราะกันฟันจะหัก..!

สงกรานต์เป็นภาษาสันสกฤต ไม่ใช่ภาษาเขมร บอกว่าสงกรานต์มีกำเนิดมาจากอินเดียยังพอเป็นที่เชื่อถือได้ อินเดียมีน้ำน้อยเขาก็เลยสาดสีกันแทน เทศกาลโฮลีของเขานั่นแหละ ชอบใจมากตรงที่ประเทศอินเดียทำสีอะไรได้ขนาดนั้น สีแดงเป็นแดง สีเหลืองเป็นเหลืองจริง ๆ แดงก็แดงแปร๊ดแสบตาไปเลย สีเหลืองก็เหลืองจัดจ้าชนิดที่เห็นแล้ว ถ้าง่วง ๆ อยู่ก็ตื่นเดี๋ยวนั้นเลย..! ทำไมบ้านเราไม่มีสีอย่างนั้นบ้าง..?

อินเดียเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ มีอารยธรรมโบราณอย่างโมเฮนโจ-ดาโร และฮารัปปา ส่วนทางด้านประเทศจีนก็มีอารยธรรมเก่าแก่ตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง ไล่มา ฝ่ายหนึ่งเป็นอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอารยธรรมลุ่มแม่น้ำฮวงโห พูดถึงความเก่าแก่แล้วก็เก่าแก่ใกล้เคียงกัน

แต่ว่าประเทศจีนได้เปรียบตรงที่ว่านักปราชญ์จีนโบราณชอบบันทึก แล้วบรรดาฮ่องเต้ซึ่งก็คือพระมหากษัตริย์จีน ก็จัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับบันทึกต่าง ๆ ในรัชกาลของตัวเองขึ้นมาโดยเฉพาะ ถ้ามีเวลาว่างเหลือก็ชำระบันทึกประวัติศาสตร์โบราณเอาไว้ด้วย ก็เลยทำให้สามารถสืบค้นย้อนหลังไปได้ ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ ปี มีหลักฐานชัดเจน

ส่วนของอินเดียไม่ค่อยจะบันทึก ถ้าบันทึกก็ต้องเป็นพวกบรรดาพระฤๅษี บางทีเข้าสมาธิเขียนตำรากันที เขียนคัมภีร์กันทีละเป็นเดือนเป็นปี คนธรรมดาทำไม่ได้เพราะว่าอดตายก่อน..! ได้เวลาแล้ว..ขออนุญาตขึ้นธรรมาสน์ก่อน...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2024 เมื่อ 20:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา