ชื่อกระทู้: ปริวาสกรรม
ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 19-01-2010, 06:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ปริวาสกรรม

ถาม : ที่วัดท่าขนุนเข้าปริวาสอีกเมื่อไร ?
ตอบ : ไม่เคยจัดปริวาส เพราะว่าผู้ที่เข้าปริวาสจะต้องเป็นพระที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ขาดความเป็นพระไปแล้ว ไปรับโทษตามวันเวลาที่ปกปิดไว้และบวกอีก ๖ วัน หลังจากนั้นต้องให้พระอย่างน้อย ๒๐ รูปขึ้นไป สวดคืนความเป็นสงฆ์ให้ ในแต่ละวันจะต้องไปสารภาพกับคนอื่นเขาว่า ตัวเองต้องอาบัติอะไรมา ขณะนี้เก็บไปได้แล้วกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ถ้าไม่ได้เป็นก็เท่ากับว่าเราโกหกเขาอยู่ทุกวัน

ถาม : อย่างนี้ถ้าใครไปทำกำหนัด ทำน้ำกามให้เคลื่อนนี่ ?
ตอบ : ไม่ต้องมาท่าขนุน..ไม่มี วัดท่าขนุนส่งไปที่วัดชากสมอหมด เพราะว่าท่านเขี้ยวดี..!

ถาม : ที่ไหนครับ ?
ตอบ : วัดชากสมอ จังหวัดชลบุรี ที่นั่นเขาจัดเป็นการกุศล จัดทั้งปีทั้งชาติ ถ้าคุณไป..ก็ไปบอกเขาว่าตัวเองโดนมาเท่าไร แล้วก็นับวัน ถึงเวลาเขาก็นัดอาจารย์กรรมมาให้ แต่ว่าระยะหลังนี่เขาจัดเป็นชุด ๆ อาจจะ ๑๐ วัน หรือ ๑๕ วัน แล้วแต่วาระ ของเราถ้าหากยังไม่ครบ ก็อย่าเพิ่งเก็บมานัตต์ แล้วก็เข้าต่อเลย เพราะว่าถ้าเราไปเก็บมานัตต์ก่อน เขาเรียกว่า ไม่ใช่ มานัตตารหบุคคล คือ บุคคลที่สมควรแก่มานัตต์ ก็กลายเป็นผิดอีก กลายเป็นว่าที่ทำมานั้นศูนย์ ต้องมาเริ่มต้นนับใหม่

คราวนี้มีพระที่วัดรูปหนึ่ง เขาบวชมาจากที่อื่นแล้วสึกไป เขาบอกว่าตอนที่เขาบวช เขาเคยโดนสังฆาทิเสส ก็เลยถามว่า "คุณโดนอยู่กี่วัน?" เขาบอกว่า "จำไม่ได้" "แล้วคุณบวชนานเท่าไหร่?" เขาบอกว่า "๗ เดือน" ซวยเลย..! เพราะถ้าหากไม่สามารถจำได้ เขาปรับเท่าระยะเวลาที่บวช

จริง ๆ แล้วสุทธันตปริวาส ท่านให้อำนาจคณะสงฆ์ในการกำหนดวัน ว่าจะลงโทษเท่าไร แต่ว่าคณะสงฆ์ปัจจุบันมักจะกำหนดว่า ๙ วัน ก็คือ ให้คลุมตัวมานัตต์ ๖ วันนั้นไป แต่จริง ๆ แล้วใช้ไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้ากำหนดไว้ว่า ให้มากกว่าที่โดนไว้เสมอ อย่างเช่นว่าถ้าเราโดน ๓ เดือน ก็ให้กำหนดอย่างน้อย ๓ เดือนกับ ๑ วัน แต่นี่ประเภทโดนมากี่ปีก็ ๙ วัน แค่ฟังดูก็รู้ว่าไม่ยุติธรรม

ระยะหลังมีความผิดเพี้ยนในเรื่องปริวาสมาก เพราะว่าพระที่ท่านจัด ถ้าหากญาติโยมไปทำบุญที่วัดเยอะ ก็เป็นรายได้ไปด้วย จึงมีการโฆษณาว่า ถ้าทำบุญกับพระที่เข้าปริวาสจะได้บุญมากเป็นพิเศษ ศีลไม่เท่าเขา...แล้วจะได้บุญมากพิเศษได้อย่างไร ? นี่ยังดี..มีอยู่วัดหนึ่ง อย่าเอ่ยชื่อเลยนะ วัดนั้นโดนห้ามจัดปริวาสตลอดชีวิตเลย เพราะว่าเวลาจัดปริวาสแล้วเขามีเจ้าภาพจองซุ้ม บรรดาเจ้าภาพก็คือบรรดาสาวแก่แม่หม้าย ถ้าหากว่าชอบใจกัน ถึงเวลาก็สึกผูกข้อมือ เพื่อนพระก็สวดชยันโตให้ ลักษณะอย่างนั้นแสดงว่าต้องพูดจาตกลงกันก่อน ก็กลายเป็นเกี้ยวหญิง โดนอาบัติซ้ำซ้อน โดนแล้วโดนอีก ก็แปลว่านอกจากแก้ไม่ตกแล้ว ยังซ้ำหนักเข้าไปอีก คราวนี้เขาทำกันแบบโจ๋งครึ่มถึงขนาดมีการแย่งตัวกัน ท่านอาจจะหล่อถูกใจก็ได้ เรื่องก็เลยดัง มหาเถรสมาคมสั่งห้ามวัดนั้นจัดปริวาสตลอดชีวิต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2014 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา