ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 30-10-2017, 21:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,498 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของฤทธิ์อภิญญานั้น มีแนวทางในการฝึกหลายแนวด้วยกัน แนวทางแรกก็คือ วิธีการตั้งแต่สมัยพุทธกาล หรือก่อนพุทธกาลมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การฝึกกสิณ ๑๐ เริ่มต้นด้วยกสิณกองใดกองหนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด หาวัสดุที่เป็นกองกสิณนั้น ๆ มา เสร็จแล้วก็กำหนดการภาวนาพร้อมกับจับภาพวัสดุนั้นไปด้วย

ลืมตามองดวงกสิณ หลับตาลงจดจำไว้ พร้อมกับคำภาวนา เราจะจำได้อยู่ครู่หนึ่ง แล้วภาพก็เลือนหายไป เราก็ลืมตามอง หลับตาลง จดจำไว้ พร้อมกับภาวนา ทำในลักษณะนี้

การเพ่งกสิณไม่ใช่ไปลืมตาจ้อง แต่เป็นการมอง หลับตาลงนึกถึงภาพ เมื่อภาพเลือนหายไป ก็ลืมตามอง หลับตาลงนึกถึงใหม่ ทำอย่างนี้เป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง จนกระทั่งหลับตาหรือลืมตา ก็สามารถเห็นภาพกสิณได้เท่ากัน ตอนนี้จะเป็นตอนที่ยาก ก็คือเราต้องประคับประคองภาพกสิณให้อยู่กับเราตลอดเวลา จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือภาพกสิณของเรา

ถ้าสามารถรักษาเอาไว้ได้ ภาพนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป จากสีเดิมจะค่อย ๆ จางลง กลายเป็นสีเหลืองอ่อน เป็นสีขาว ค่อย ๆ ใสขึ้น ๆ จนกระทั่งใสสว่างเจิดจ้า

ถ้าถึงตรงนี้ก็ลองอธิษฐานขอให้ภาพนั้นใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง เมื่อสามารถกำหนดได้ดั่งใจแล้ว ก็สามารถอธิษฐานใช้ผลกสิณนั้นได้ เมื่อสามารถใช้ผลได้ดั่งใจแล้ว ก็ค่อยขยับไปทำกสิณกองใหม่ ถ้าหากมีความคล่องตัวในกสิณทุกกองแล้ว จะสามารถแสดงฤทธิ์ทุกอย่างได้อย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเหาะเหินเดินอากาศ มุดน้ำดำดินอย่างไรก็ได้ ซึ่งเป็นฆราวาสไม่มีข้อห้าม แต่ไม่สามารถจะใช้กสิณนั้นไปในทางผิดศีลผิดธรรมได้ ถ้าใช้เมื่อไรก็จะเสื่อมทันที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2017 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา