ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 04-03-2012, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,781 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕

ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่ถนัดและสบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าหากว่าเผลอไปคิดเรื่องอื่นเมื่อไร ให้ดึงความรู้สึกของเรากลับมาที่ลมหายใจใหม่ทันที จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เราถนัดแต่เดิมมา

การปฏิบัติภาวนานั้นอย่าเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย ยกเว้นว่ากองกรรมฐานเดิมได้ผลเต็มที่แล้วจึงค่อยเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นความเคยชินจะทำให้สภาพจิตวิ่งไปหากองกรรมฐานเดิมอยู่เสมอ เมื่อเราเปลี่ยนก็จะเกิดความฟุ้งซ่าน แย่งกันไปแย่งกันมาระหว่างของเก่ากับของใหม่ ทำให้ก้าวหน้าได้ยาก

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของต้นเดือนมีนาคมนี้ วันนี้มีเด็กนักเรียนประมาณ ๒๐๐ คนจากโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ยมาฟังคำแนะนำในการปฏิบัติสำหรับตน ที่น่าชื่นใจก็คือ เด็กทุกคนนั่งสมาธิเป็นทั้งนั้น

เรื่องนี้ทำให้เราที่เป็นผู้ใหญ่ต้องพิจารณาตัวเองว่า เราสู้เด็กได้หรือไม่ ? เราเป็นผู้ใหญ่มากด้วยวัยวุฒิ คืออายุ มากด้วยคุณวุฒิ คือความรู้ความสามารถ แต่ถ้าหากว่าในเรื่องของการปฏิบัติ เราสู้เด็กไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าอายอย่างยิ่ง เราจะไปบอกว่าเด็ก ๆ เขามีโอกาส เขาอยู่โรงเรียนวัด เขาได้เริ่มต้นในสิ่งที่ดีก่อน เรื่องนี้ขอบอกว่าไม่จริง

เพราะว่าทุกคนจะต้องมีปุพเพกตปุญญตา คือผลบุญที่เราเคยสร้างสมไว้แต่ปางก่อนมา เราถึงจะมีความยินดี อยากจะปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าไม่มีปุพเพกตปุญญตานี้แล้ว เราก็จะไม่คิดที่จะปฏิบัติธรรม ในเมื่อเราทั้งหลายที่เป็นผู้ใหญ่ มีอายุมากกว่า มีชั่วโมงบินมากกว่าในการปฏิบัติธรรม แต่ถ้าหากว่าความดีที่เราได้ยังสู้เด็กไม่ได้ เราก็ต้องมาพิจารณาว่าเกิดจากสาเหตุใด

การที่เราปฏิบัติแล้วจิตสงบสู้เด็กไม่ได้ ก็เพราะว่าจิตของผู้ใหญ่นั้น ถูกย้อมไปด้วย ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ พอกพูนมากขึ้นตามอายุของเรา ยิ่งเรารับรู้เรื่องทั้งหลายมากขึ้นเท่าไร ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ก็พอกพูนมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเป็นดังนั้นเราจึงเสียท่าเด็ก ๆ ที่สภาพจิตยังไม่ได้โดน ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ พอกพูนมากเหมือนกับของเรา สามารถที่จะปฏิบัติแล้วเข้าถึงความผ่องใสของใจได้มากกว่า

เมื่อเป็นดังนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องมา ลด ละ เลิก รากเหง้าของอกุศลกรรมเหล่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-03-2012 เมื่อ 17:17
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา