ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันเสาร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖
(หลังจากเสียงตามสายจบ) เมื่อครู่นี้หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกเรื่องวาจาส่อเสียด มีศัพท์อยู่คำหนึ่งก็คือ "ไอ้หมอนั่น" เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้ยินคำนี้กัน ต้องเข้าใจว่าคนรุ่นเก่าถ้าถนัดหรือชำนาญอะไร เขามักจะเรียกเป็น "หมอ" แม้กระทั่งควาญช้างก็เรียกว่า "หมอช้าง" ทนายความก็เรียกว่า "หมอความ" แต่พอเอามาเรียกคนเข้าความหมายก็เพี้ยน ก็คืออยู่ในลักษณะเป็นคนกะล่อน "ไอ้หมอนั่น" ก็แปลว่าเขามีความเชี่ยวชาญในการกะล่อนมากเป็นพิเศษ
คำพูดเก่า ๆ หลายคำ พอไม่ได้ใช้ก็เลือนหายไป อย่างปัจจุบันนี้อาตมาไม่ได้ยินคำว่า "กระถ็อก" แล้ว มีใครเคยได้ยินไหม ? อย่างเช่นกระถ็อกน้ำปลา คือปกติแล้วจะตัดจุกขวดน้ำปลาให้รูใหญ่ไม่ได้ เดี๋ยวเทแล้วน้ำปลาจะออกมาเยอะเกินไป ต้องตัดรูเล็ก ๆ แต่พอรูเล็กเททีน้ำปลาก็ไม่อยากจะออก ถ้าเป็นเราก็เรียกว่าเขย่า..ใช่ไหม ? แต่ภาษาโบราณเขาเรียกว่า "กระถ็อก"
กลายเป็นว่าศัพท์บางคำหายไป ในขณะเดียวกันศัพท์ใหม่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา แต่ศัพท์รุ่นใหม่ฟังแล้วเครียด เขาสามารถบัญญัติศัพท์ที่เราฟังไม่รู้เรื่องได้ ต้องเข้าใจว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องชั่วคราว สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง หรือถ้าหากแปลให้ฟังเข้าใจก็คือ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่มีอะไรเที่ยง
ในเมื่อทุกอย่างไม่เที่ยง เราไปยึดมั่นถือมั่น เราก็จะทุกข์ ขอร้องร่างกายนี้ให้อย่าแก่เลย..แล้วร่างกายฟังเราไหม ? อย่าอ้วนเลย..ร่างกายไม่ฟังเราหรอก เพราะว่าเป็นไปของมันเอง ในเมื่อทุกอย่างไม่เที่ยง เราไปหวังให้เที่ยงก็เท่ากับว่าเราไปฝืนธรรมดา
คำว่า "ธรรมดา" ถ้าใครหาเจอ จะใช้หากินได้ทั้งชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อ ๆ ไปยันพระนิพพานเลย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-08-2023 เมื่อ 00:27
|