ถาม : เมื่อปฏิบัติไปแล้ว พบครูบาอาจารย์มาแนะนำในนิมิต จะมีเกณฑ์พิจารณาอย่างไรว่าเป็นจริง ไม่ใช่อุปาทานคิดไปเองคะ ?
ตอบ: ต้องศึกษาพระไตรปิฎกควบคู่ไปด้วย ถ้ารู้สึกว่าพระไตรปิฏกมีมากเกิน ก็เอาวิสุทธิมรรค ถ้ารู้สึกว่าวิสุทธิมรรคยังมากเกินไป อาตมาแนะนำหนังสือคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านสรุปวิสุทธิมรรค ๓ เล่มใหญ่ ๆ ลงมาเหลือเป็นตำราบาง ๆ เล่มเดียว ดูตามนั้น ถ้าสิ่งที่บอกมา ไม่นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าเป็นของจริง ถ้าหลุดไปจากนั้นเมื่อไร ก็แปลว่าของปลอม
แต่มีปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าบางทีในส่วนของกิเลสมารเขาฉลาดมาก อาตมามีรุ่นน้อง ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมภาวนา ไม่กินไม่นอนตลอด ๒ เดือน ไม่รู้อยู่ได้อย่างไร ? แสดงว่ากำลังสมาธิสูงมาก ไม่อย่างนั้นคงตายไปแล้ว กระทั่งท้ายสุดร่างกายทนไม่ไหวก็เพี้ยน ต้องเอาเข้าโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา
อาตมาไปค้นห้องดู เห็นมีบันทึกการปฏิบัติเป็นระยะ ๆ มา ปรากฎว่าหน้าสุดท้ายเขียนว่า "วันนี้มีพระมาบอกว่า มรรคผลมาถึงแล้ว ให้เร่งการปฏิบัติให้มากไว้ นักปฏิบัติที่ดีต้องกินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ภาวนาให้มาก ยิ่งเร่งรัดมากเท่าไร ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น" ใช่ไหมที่ว่ามา ? ถ้าปัญญาไม่พอนี่ใช่ทั้งหมดเลย ไปเพี้ยนเอาประโยคสุดท้าย "ยิ่งเร่งรัดมากเท่าไร ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น" เขาบอกความจริงเราเกิน ๘๐ เปอร์เซนต์ ซ่อนเอาไว้นิดเดียว ถ้าปัญญาไม่พอก็โดนเหมือนกัน เพราะฉะนั้น...ต่อให้เรามั่นใจในตำรา มั่นใจว่าสิ่งที่รู้มาว่าไม่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก ก็ยังต้องระวังจุดนี้ไว้ด้วย
อาตมาเองเคยสอบถามพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ด้วยกัน ท้ายสุดของการปฏิบัติธรรม ทุกคนเหลือคำเดียวว่า "กูไม่เชื่อ" ถ้าการปฏิบัติของเรามุ่งหวังมรรคผล เขาจะพยายามหลอกให้เราหลงทางเสมอ ฉะนั้น...ทุกคนสามารถใช้คาถานี้ประจำใจไว้ได้ กูไม่เชื่อ I don't believe you.
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:58
|