มโนมยิทธิหลวงพ่อท่านสอนเราให้รู้เพื่อละ ไม่ใช่รู้แล้วยึด
พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเรา สอนมโนมยิทธิมานานเหลือเกิน ถ้านับเวลาก็ตั้งแต่ปี ๒๕๐๘ เป็นต้นมา คนที่ได้มโนมยิทธินับเป็นแสน ๆ มีใครบ้างที่ซักซ้อมอยู่ทุกวันโดยไม่ทอดทิ้ง..หายาก..ใช่ไหม ?
อาวุธแม้เกียจคร้านการขัด เกิดสนิมจับถนัด หนักตื้อ ถึงเวลาชักไม่ออก ติดแหง็กอยู่แค่ฝักนั่นแหละ ต้องซ้อมบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลวงพ่อท่านสอนเราให้รู้เพื่อละ ไม่ใช่รู้แล้วยึด
ปัจจุบันนี้อาตมาเวทนาโยมเหลือเกิน หลายต่อหลายคน รู้แล้วนำไปใช้ผิด ๆ ไปดูการระลึกชาติ ไปดูย้อนอดีต แล้วก็ไปภาคภูมิใจว่า คนนั้นเป็นพี่เรา คนนั้นเป็นน้องเรา นั่นผัวเรา เมียเรา ลูกเรา พ่อเรา แม่เรา แล้วก็กอดกันตายพร้อมกับเรา..!
ดูก็ดูอย่างมีปัญญาสิ ดูแบบที่เรียกว่าใช้ปัญญาประกอบ แต่ละชาติที่เราเกิดมา มีชาติไหนไม่ทุกข์บ้าง ? ลำบากยากเข็ญมาจนขนาดนี้ยังไม่เข็ดใช่ไหม ? ยังไปฟื้นความสัมพันธ์กันใหม่ ไปกอดคอตายรวมกันทั้งพรวนอีกใช่ไหม ? ยังลงสู่อบายภูมิไม่เพียงพอใช่ไหม ?
อาตมาที่ไม่ยอมสอนเพราะสงสารโยม อยากจะบอกว่า มโนมยิทธิจริง ๆ แล้วง่ายมาก แค่คิดเป็นก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าอาตมาสอนไป อาจจะพาโยมทั้งหลายติดเพิ่มขึ้นอีกเยอะ สงสารก็เลยไม่สอน นั่งอยู่ตรงนี้แค่ว่าใครติดขัดตรงไหนมาสอบถาม อาตมาจะชี้แจงให้ หลวงพ่อท่านให้เรารู้เพื่อละ การเข้าสู่มรรคผลพระนิพพาน จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องได้อภิญญา ไม่จำเป็นต้องได้วิชชาสอง ไม่จำเป็นต้องได้สมาบัติแปด หากแต่ท่านบอกว่า ให้เคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ เคารพพระธรรมจริง ๆ เคารพพระสงฆ์จริง ๆ ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ คิดว่าตายเมื่อไรเราจะไปพระนิพพาน มีข้อไหนที่บอกว่าต้องได้มโนมยิทธิ ? ไม่มี..!
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับปฐมฤกษ์
เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2013 เมื่อ 15:00
เหตุผล: แก้คำผิด
|