ดูแบบคำตอบเดียว
  #63  
เก่า 10-06-2017, 21:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,199 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งเคยพูดเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว เขาบอกว่าตั้งแต่เลือกตั้งมา "กูเห็นแต่นักการเมืองมีแต่เหี้ยกับเหี้ยมาก" จะว่าเขาพูดแรงไปก็ใช่ แต่บรรยายลักษณะการเมืองได้ดีที่สุด

นั่นเกิดจากพื้นฐานจิตใจที่ไม่มั่นคง
เมื่อไม่มี ศีล สมาธิ ปัญญา ในระดับที่รักษาตัวเองได้ ถ้าตกลงไปในกระแส รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นมา ก็ไขว่คว้าหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ใส่ตัวเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะเมื่อก้าวไปในที่สูง ถ้าไม่ใช่คนที่ตรงไปตรงมาจริง ๆ ก็อยากจะฟังแต่เรื่องที่ดี ๆ

ถ้าบอกว่าเศรษฐกิจไม่ไหว ประชาชนจะอดตายแล้ว เดี๋ยวท่านโกรธแย่เลย ก็ต้องบอกว่าเศรษฐกิจดี เศรษฐกิจดีประสาอะไร ? ชาวบ้านขายของไม่ได้...เจ๊งกันระนาว

ถ้าว่ากันตามประวัติศาสตร์จีน พระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้ถือว่าเป็นมหาราชของจีน ได้ตั้งขุนนางทัดทาน พระราชทานป้ายทองนิรโทษให้ ทำผิดขนาดไหนโทษก็ไม่ถึงประหารชีวิต แล้วขุนนางผู้นี้ก็กล้าค้านทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าเป็นคนที่ค้านอย่างมีหลักการ ชี้ให้เห็นว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะดี ถ้าทำแบบนี้แล้วจะเสีย ถ้าผลดีมีมากกว่าผล
เสียก็ทำได้ ถ้าผลดีมีน้อยกว่าผลเสียก็ยกเลิกโครงการไป

ขนาดนั้นพอช่วงท้าย ๆ รัชกาล ไปโดนขุนนางประจบสอพลอมาก
เข้า พระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้ก็เลิกถามขุนนางทัดทาน ไม่ยกเลิกตำแหน่ง แต่เลิกปรึกษา ก็เลยทำเอาตอนท้ายรัชกาลนี่รู้สึกว่าการบริหารแผ่นดินจะตกลงไปอีกระดับหนึ่ง

อยู่นาน ๆ ไป ถึงเวลา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เข้ามา ก็เริ่มอยากจะฟังแต่สิ่งที่ดี ๆ เท่ากับปิดหูปิดตาตัวเอง ในเมื่อปิดหูปิดตาตัวเอง ถึงเวลาไม่รู้ความจริง การบริหารประเทศก็ผิดพลาด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2017 เมื่อ 22:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา