เมื่อครู่นี้ลองให้ท่านกวาง* จับชีพจรดู ท่านว่าแทบจะคลำหาไม่เจอ เพราะว่าถ้ากำลังใจของเราทรงตัว ชีพจรจะเต้นช้าลงโดยอัตโนมัติ ถ้าหากว่าทรงตัวถึงที่สุดจะหาไม่เจอเลย ชีพยังทำงานอยู่ แต่ว่าเหมือนกับคนตาย
ผมเคยให้ท่านเผื่อน**กับท่านน้อย***จับชีพจรซ้ายขวา แล้วเดินคุยกันไปเรื่อย พักหนึ่งสองคนก็หัวเราะ บอกว่า “ไม่เต้นเลยครับอาจารย์..!” “เออ..พวกคุณกำลังคุยกับผีอยู่ ผีตายแล้วยังคุยกับคุณได้..!”
ที่พูดนี้เพื่อที่จะให้พวกเรามั่นใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำได้จริง ๆ อย่างที่ชีปุ๊ก บอกว่า “ทุกอย่างดับไปเลยค่ะ..หลวงพ่อ” ที่ดับไปเลยก็คือ ความรู้สึกทั้งหมดตัดไปจากร่างกาย ไม่รับรู้อาการต่าง ๆ ที่เกิดกับร่างกาย
ในเมื่อจิตกับประสาทแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ก็อยู่สภาพเหมือนกับคนตายดี ๆ นี่เอง ที่สมัยไปอยู่วัดท่าขนุน**** ใหม่ ๆ ผมโดนบรรดาแม่ชีเขายำใหญ่ เล่นเอาผมเละเป็นโจ๊กไปเลย เพราะพวกเขาคิดว่าผมตายไปแล้ว
ตอนนั้นเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคมาเลเรียจนทนไม่ไหว ผมก็ต้องทิ้งสังขารชั่วคราว พวกเขาคิดว่าผมตาย เลยช่วยกันเอาผ้าชุบน้ำร้อน ขอยืนยันว่าน้ำร้อน ถูกันใหญ่ ละเลงกันใหญ่ ตื่นขึ้นมาตอนตีสองกว่า แสบไปทั้งตัว..!
ตั้งแต่นั้นมา ผมจำเป็นต้องใช้พวกครีมอยู่เรื่อย ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วเวลาอากาศเย็นจะคันมาก โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในห้องปรับอากาศ เพราะว่าน้ำมันที่เลี้ยงผิวโดนน้ำร้อนถลกไปเกลี้ยงเลย..!
เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ เพราะเป็นแค่ฌานโลกีย์เท่านั้น แต่ว่าโลกียฌานนี้ ถ้าสภาพของร่างกายไม่ดี หิวมาก ๆ เหนื่อยมาก ๆ ง่วงนอน เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ไม่ค่อยจะเอากับเราด้วย
ถึงได้บอกให้ทุกคนตั้งใจรักษากำลังใจ ชนิดที่เรียกว่า จะทรงฌานเมื่อไรเราต้องเข้าได้ทันที ถ้าไม่สามารถจะทำอย่างนั้นได้ก็จะลำบาก พอถึงเวลาเราฟุ้งซ่าน ควบคุมกำลังใจไม่ได้ ก็จะฟุ้งไปเรื่อย กว่าจะดึงกลับได้ก็นาน
หมายเหตุ :
*พระสมุห์กำพร สุชาโต สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี หมู่ที่ ๕ ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
**พระปลัดเผื่อน สุธมฺมสิริปญฺโญ สำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ หมู่ที่ ๓ ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
***พระครูสังฆรักษ์วิฑูรย์ จนฺทวํโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
****วัดท่าขนุน เลขที่ ๒๓๕ หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2011 เมื่อ 10:19
|