ดูแบบคำตอบเดียว
  #31  
เก่า 09-11-2009, 09:32
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

๑๕."มัน" อยู่ในห้อง (กุฏิ)

หลังจากงานพิธีปลุกเสกพระขรรค์โสฬส กระผมก็กลายเป็นพระที่ชาวบ้านเขารู้จักไปโดยปริยาย งานนี้เราเป็น "พระ" เราต้องเป็นที่พึ่งของโยมตามนโยบาย "สงเคราะห์ผู้ที่ยังไม่ศรัทธาให้ศรัทธา และทำให้ผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่แล้วมีความศรัทธายิ่ง ๆ ขึ้นไป" (แบบสัมมาทิฐินะครับ) ในเมื่อญาติโยมขอความช่วยเหลือ
แล้วกระผมจะปฏิเสธได้อย่างไร (งานเข้า) ส่งมากันเยอะมาก..............อะไรรู้ไหมครับ “วัตถุอัปมงคล”
มาเป็นกล่อง ๆ ทางไปรษณีย์ก็มี,เอามามอบให้ถึงมือกระผมด้วยตัวเองถึงวัดก็มี, โทรมาปรึกษาก็เยอะ
ขนาดเที่ยงคืน “มัน” ก็ยังโทรมา ถือว่าเป็นผู้ที่มีสังฆานุสติที่มั่นคงมาก......เอา ๆ เพื่อความสุขของญาติโยม
แล้วทำไมไม่ถามพระบ้างว่า "พระเองน่ะกลัวบ้างไหม กลัวหรือเปล่า?" หลวงพ่อบอกว่า “ผีกับพระมันของคู่กัน
อะไรที่มันอยู่ภพภูมิต่ำกว่าเรา จะไปกลัวเขาทำไม ถ้ามาแบบหาเรื่องกันก็อัดให้กระจายไปเลย” แต่สุดท้ายแล้วการประนีประนอมย่อมดีที่สุด เพราะเราพอจะเป็นที่พึ่งให้เขาได้ (ที่พึ่งของผีนะ) เรา ๆ ท่าน ๆ ก็คงจะจำคำสอนของหลวงพ่อได้ งานนี้เลยส่งมากันยกใหญ่เลย พัสดุของพระรัตน์ทั้งนั้น

งานนี้เมื่อแกะดู โอ้โฮ กุมารทอง กว่า ๒๔ ตน ( เฮ้ยอยู่กันดี ๆ นะไม่ใช่แบ่งทีมเตะฟุตบอลกันในกุฏิหลวงพี่ละ ถ้าไม่เชื่องานนี้พ่อจะเอาไปเผาให้หมด ขู่ ๆ เอาไว้ก่อน แต่ก็เกรง ๆ มันอยู่เหมือนกัน หลวงพี่ไม่ใช่เพื่อนเล่นพวกเธอนะ) ผ้ายันต์,ตะกรุด,น้ำมัน,พระ จัดแจงแยกออกเป็นชุด ๆ แล้วก็เก็บใส่กล่องเอาไว้ คืนแรกนอนก็ผวาเหมือนกัน ตกดึก ๆ เอาไฟฉาย (เข้าพิธีโสฬสแล้ว) ส่อง ๆ ดูอยู่บ่อย ๆ พร้อมกำหนดจิตให้แสงไฟฉายเป็นแสงเลเซอร์เหมือนดาบของเหล่า “อัศวินเจได” ในภาพยนตร์ .......จิตมันคิดของมันไปเอง....

ได้โอกาสเลยเรียนถามหลวงพ่อหลังทำวัตรเย็นเสร็จ

ทัดฤทธิ์- ทิดรัตน์ : หลวงพ่อครับจะทำอย่างไรดีกับของพวกนั้นครับ คือว่าญาติโยมส่งมาให้ผมกันเยอะมากเลยครับ

หลวงพ่อ : อย่าว่าแต่ของคุณเลย ญาติโยมก็นำมาถวายไว้กับผมเยอะเหมือนกัน ก็รองานเป่ายันต์แล้วกันจะได้ล้างของไม่ดีออกไปให้หมด

และแล้วก็มีเหตุการณ์ระทึกเกิดขึ้น ผมเองนำจีวรพาดราวเชือกเอาไว้ รีบแต่งองค์ทรงเครื่องจะไปทำวัตรเช้า คว้าจีวรไม่ทันได้ดู ตุ๊กแกตัวเบ้อเร่อ เกาะผนังยิ้มปากกว้างให้อยู่ เฮ้ยมาได้อย่างไร ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเข้ามา รู้ไหมว่าพระกลัว “โคตรกลัวเลย” กรุณาออกไปได้ไหม พระไม่กล้าหยิบจีวร คุยอย่างกับคุยกันรู้เรื่อง.............มันก็ยังยิ้มมองจ้องหน้าอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ......เอาตายเป็นตาย มีเทียนอยู่เล่มหนึ่งยาวประมาณไม้บรรทัด เลยค่อย ๆ เขี่ยจีวร แล้วเอาเทียนเคาะข้างฝาไม้สองสามครั้ง เจ้าตุ๊กแกเลยวิ่งหายเข้าไปข้างเสา เหลือเวลาอีกสองนาที ตูไปลงชื่อทำวัตรเช้าสายแน่ ๆ งานนี้..........

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : หลวงพี่นวยกุฏิที่ผมอยู่หลวงพี่เคยอยู่มาก่อนใช่ไหมครับ เคยเจอตุ๊กแกบ้างไหมครับ

หลวงพี่นวย : หลวงพี่ ที่ผมเจอยิ่งกว่าตุ๊กแกอีกครับ เพราะมันมาเป็นคู่ "ตุ๊กแกกับงูเขียว" ร่วงลงมาด้วยกันทั้งคู่ในห้องเลย ดีนะผมนอนหลับแต่ก็มีสติ พอได้ยินเสียงเลยเปิดไฟฉายดู.....งานนั้นแทบจะวิ่ง ค่อย ๆ ประคองสติ เอาไม้ไผ่ที่พิงข้างเสา หลวงพี่เห็นไหม? ผมยกให้หลวงพี่เป็นของที่ระลึกเลยก็แล้วกัน เอาไว้เขี่ยตุ๊กแก เขี่ยงูเขียว

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : งานนี้นอนกับผี แถมตุ๊กแกกับงูเขียวอีกสองตัว
ช่างทดสอบกำลังใจกันเสียจริง ๆ



กลางคืนต้องปิดหน้าต่างเพราะอากาศค่อนข้างหนาว (จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากจะเปิดเอาไว้ เพราะกลัวว่าเมื่อมองออกไปจะเห็นต้นโพธิ์ใหญ่ กลัวว่าจะเห็น "ใครสักคน" ที่นั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งของต้นโพธิ์)



กุฏิห้องที่ ๓ ชั้นที่ ๒ กฏิประจวบดี นับจากโต๊ะหมู่บูชา
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 10-11-2009 เมื่อ 19:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา