ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-09-2013, 05:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,712 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราก็จะเห็นได้ชัดว่า ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาจนหลับตาลง ไม่มีเวลาไหนเลยที่เราไม่ทุกข์ ความทุกข์เกาะกินเราอยู่ตลอดเวลา แต่สภาพจิตของเราที่มืดบอด ทำให้เราไปยึดถือสภาพร่างกายนี้ว่าเป็นเรา เป็นของเรา ความทุกข์นั้นจะกัดกินได้เฉพาะร่างกายนี้เท่านั้น ถ้าจิตใจเราไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย ความทุกข์ก็ไม่สามารถที่จะกินใจของเราได้

เราจึงต้องใช้ปัญญาแยกแยะให้ออก ว่าสภาพร่างกายที่เป็นเพียงธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม มีความทุกข์เกาะกินเป็นปกติ มีแต่ความเป็นโทษเป็นภัย เป็นของน่ากลัว เพื่อที่สภาพจิตใจของเรา จะได้ถอนออกจากความยินดี ความปรารถนาอยากมีร่างกายนี้ ความปรารถนาการเกิดอีก ถ้าสภาพจิตสามารถถอนจากความยินดีในร่างกายนี้ ก็จะไม่ยินดีในร่างกายของคนอื่น เมื่อไม่ต้องการร่างกายของตน ก็จะไม่ต้องการร่างกายของคนอื่น ไม่ต้องการการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนนี้อีก

ถ้าอย่างนั้น เราก็ส่งกำลังใจไปที่พระนิพพาน เอากำลังใจเกาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน หรือระลึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นเป็นพระพุทธนิมิต แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ให้ตั้งใจว่า ถ้าเราตายลงไปเมื่อไร ขอไปอยู่กับพระองค์ท่านที่พระนิพพานเท่านั้น

ถ้าเราทุกคนทำอย่างนี้ได้ ก็แปลว่าเรามีการเตรียมพร้อม ถึงแม้ความตายมาถึงก็ไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะเป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของร่างกายนี้ ที่เกิดมาเท่าไร ก็ต้องเสื่อมสลายตายพังลงไปเท่านั้น ในเมื่อเราเตรียมพร้อมแล้วสำหรับความตาย เตรียมพร้อมแล้วที่จะไม่ปรารถนาการเกิดมาอีก เราก็จะเป็นผู้ที่ไม่หวั่นไหว มีกำลังใจที่มั่นคงเด็ดเดี่ยว ตั้งใจอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าตายเมื่อไร จะไปอยู่พระนิพพาน

ถ้าเช่นนั้นเมื่อถึงตอนนี้ก็ให้ทุกท่านเอากำลังใจเกาะภาพพระหรือพระนิพพานไว้ ถ้ายังมีลมหายใจก็ดูลมหายใจของเรา ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็ให้กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ก็ให้กำหนดดูกำหนดรู้อยู่อย่างนั้น ให้ทุกท่านรักษากำลังใจไว้ดังนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2013 เมื่อ 09:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา