ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 02-08-2010, 15:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,381 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปกติถ้าออกไปแบบมโนมยิทธิเต็มกำลัง ต้องเป็นฌาน ๔ เท่านั้นหรือเปล่าคะ เป็นฌาน ๓ ปลาย ๆ ได้หรือเปล่า ?
ตอบ : เป็นฌาน ๔ อย่างเดียว แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วคนเราจะเข้าใจผิด การฝึกมโนมยิทธิแบบครึ่งกำลัง ถ้าไปได้ก็เป็นฌาน ๔ ส่วนครึ่งกำลังที่ว่าเป็นแค่ตอนที่เป็นอุปจารสมาธิ แล้วทิพจักขุญาณเกิดขึ้นเท่านั้น

ถ้าหากว่าเราเห็นภาพก็เป็นอุปจารสมาธิ แต่ถ้าเรากำหนดจิตไปถึงตรงนั้นได้ นั่นเป็นกำลังของฌาน ๔ แล้ว แต่ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ได้บอก เพราะกลัวว่าลูกศิษย์จะไปฟุ้งซ่านอยู่ตรงนั้น

เพราะฉะนั้นเราจะสังเกตได้ว่า คนที่ฝึกมโนมยิทธิครึ่งกำลังแล้ว ถ้าไปฝึกเต็มกำลัง มักจะไม่ค่อยได้อะไรกับใคร คำว่าไม่ค่อยได้อะไรกับใครก็คือว่า แยกแยะความแตกต่างไม่ออก

ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่ว่า พอไปฝึกเต็มกำลังความคล่องตัวมีมากขึ้นนิดหน่อย ความชัดเจนมีมากขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น เพราะว่าการไปครึ่งกำลังก็คือฌาน ๔ เหมือนกันจนชินแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องต่อรองให้เป็นฌาน ๓ หรอกจ้ะ เพราะที่จริงก็เป็นฌาน ๔ นั่นแหละ


ถาม : แต่ว่าพอตัวเองถึงจุดนั้น ก็จะเด้งออกไปทุกทีเลยค่ะ
ตอบ : ก็ไปสิ ใครเขาห้ามเล่า ?

ถาม : เห็นบอกว่าจะมีการทรงสมาธิสูงสุด แล้วเลื่อนออกมาพิจารณา
ตอบ : อันนั้นเสียเวลา ไม่ทันกิน ไม่ทันพิจารณาเขาก็ออกไปกันแล้ว

ถาม : หนูก็ถอยออกมาพิจารณาไม่ได้นะสิคะ เพราะเด้งออกไปแล้ว
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้อง เราก็พิจารณาตอนเด้งออกไปแล้วว่า ร่างกายไม่ใช่ของเราจริง ๆ เป็นคนละตัวกันเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-08-2010 เมื่อ 20:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา