ดูแบบคำตอบเดียว
  #505  
เก่า 07-07-2020, 22:41
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

อุบายขู่พระเณรให้รู้ทันจิตตน

อีกคราวหนึ่ง ครูบาอีกองค์หนึ่งท่านอธิษฐานจิตว่า หากท่านทำอะไรผิด.. ขอให้พ่อแม่ครูอาจารย์อย่าด่าท่านต่อหน้าผู้คนเลย ท่านว่าท่านอายคน ท่านรับไม่ได้ ขอให้บอกกับท่านดี ๆ ก็เป็นเรื่องที่แปลกนัก ท่านทำจานใส่อาหารตกแตกในศาลาเสียงดังเพล้งเลยทีเดียว เป็นความผิดพลาดครั้งร้ายแรงนักสำหรับพระกรรมฐาน.. ผู้จักต้องมีสติระมัดระวัง สำรวมอยู่เป็นนิตย์ แต่ความผิดในครั้งนั้นพ่อแม่ครูอาจารย์เพียงแค่หันมามอง

พอท่านเห็นแล้วก็เฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่านว่าท่านไม่เคยถูกพ่อแม่ครูอาจารย์ดุด่าต่อหน้าญาติโยมเลย แต่ดุด่าในที่เฉพาะก็มีบ้าง

มีเณรองค์หนึ่งไม่ทราบว่าภาวนาดีอย่างไร เข้าใจว่าตัวเองสำเร็จธรรมแล้ว จึงพยายามจะขึ้นไปกราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์ ครูบาที่เป็นเวรศาลา เห็นอาการของเณรก็รู้แล้วว่าแท้จริงเป็นเช่นไร คิดพยายามจะช่วยเหลือจึงกล่าวว่า
นี่เณร ลองเล่าให้ครูบาฟังหน่อยซิ มันเป็นยังไง ไม่ต้องไปกราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ได้หรอก ครูบาพอแนะนำได้อยู่น้า


เณรก็พูดขึ้นว่า “ถึงเล่าให้ครูบาฟังก็ไม่รู้เรื่องหรอก ของอย่างนี้มันเป็นปัจจัตตัง”

สุดท้ายครูบาเห็นเณรตั้งท่าจะขึ้นไปกราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์ให้ได้ ก็เลยปล่อยตามความประสงค์ เณรจึงก้าวขึ้นกุฏิของพ่อแม่ครูอาจารย์อย่างอาจหาญ มิหนำซ้ำยังบังอาจเคาะประตูกุฏิท่านอย่างไม่สะทกสะท้านอีกด้วย ทันใดนั้นเณรก็เห็นพ่อแม่ครูอาจารย์เปิดประตูออกมา เณรจึงรีบกราบเรียนว่า “พ่อแม่ครูอาจารย์ครับ ผมสำเร็จแล้วครับ”

ว่าดังนั้นแล้วยังไม่ทันที่เณรจะกราบเรียนว่าอย่างไรต่อ เสียงพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ดังขึ้น ไม่ผิดอะไรกับอสนีบาตฟากลงที่ข้างหู
เณรนี่ มันจะเป็นบ้าแล้วหรือ ? หนีเดี๋ยวนี้นะ” เท่านั้นเอง เณรก็เหมือนมีปาฏิหาริย์.. กระโจนพรวดพราดลงจากกุฏิไวกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก วิ่งกระหืดกระหอบออกมา ก็พอดีมาพบครูบาซึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอด


จากนั้นครูบาก็พูดยิ้ม ๆ กับเณรว่า
“เป็นไงบ้างล่ะเณร ของอย่างนี้มันเป็นปัจจัตตัง ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกเนอะ ครูบาบอกแล้วก็ไม่เชื่อ”


ผลปรากฏว่าอาการที่สำคัญตนเช่นนั้นก็ระงับลงไป และองค์ท่านก็มิได้ไล่หนี หรือเอาเรื่องนี้มากล่าวดุด่าอะไรอีกเลย

อีกคราวหนึ่ง ครั้งนี้เป็นพระคือ ครูบาอีกองค์หนึ่งท่านภาวนาแล้วเกิดสำคัญผิดว่า ตัวเองมีหูทิพย์ขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงลึกลับอะไรต่าง ๆ มากมาย ครั้งหนึ่งท่านได้ยินเสียงนกร้อง แล้วท่านก็เข้าใจไปว่า นกมันบอกว่าฝนกำลังจะตกแล้ว ท่านก็รีบไปเก็บถ้วยเก็บจานชามที่ตากแดดเอาไว้ พอเก็บเสร็จไม่นาน ฝนก็ตกลงมาจริง ๆ ยิ่งทำให้ท่านหลงเชื่อเสียงที่ได้ยินหนักเข้าไปอีก ครั้นปรึกษาครูบาองค์ไหนก็ไม่เป็นที่ลงใจ สุดท้ายแม้จะเกรงกลัวเพียงใดก็ต้องยอมเสี่ยงเข้าหาพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ความจริงได้เหตุผล.. ผิดถูกเอามาสอนตน พอก้าวเท้าขึ้นบันไดกุฏิ ท่านเห็นพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่ข้างบนจ้องมองดูท่านด้วยแววตาดุ ๆ ท่านก็ชักไม่ค่อยจะกล้าแล้ว จากนั้นจึงเอามือชี้มาที่หูของตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “พ่อแม่ครูอาจารย์ครับ หูผม”

ครูบาองค์นี้กล่าวยังไม่ทันจะจบ กำลังว่าจะพูดอะไรต่อไปอีก ปรากฏว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ขนาบเข้าให้ในทันทีว่า “ท่านนี่.. ระวังจะเป็นบ้านะ

พอครูบาได้ยินดังนั้น ก็หันหลังลงจากกุฏิเปิดแน่บไปเลย ตอนหลังพ่อแม่ครูอาจารย์ก็เมตตาเทศน์สอนให้บริกรรมพุทโธถี่ ๆ และอย่าไปยุ่งกับเสียงที่ได้ยินอีก เรื่องหูทิพย์ที่วาดภาพไว้ก็เลยจืดจางหายไป

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2020 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา