ดูแบบคำตอบเดียว
  #507  
เก่า 08-07-2020, 13:11
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติครูอาจารย์ให้สังเกต รู้จักคิดอ่านให้รอบคอบ

พระเณรที่เคยอยู่กับองค์ท่านทุกรุ่นต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกัน.. ในความเป็นจอมปราชญ์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ว่าสุดฉลาดแหลมคม ท่านรอบรู้ทั้งภายนอกและภายใน.. เต็มเปี่ยมด้วยกระแสแห่งเมตตาธรรม แม้ในการทำข้อวัตรหยาบทางภายนอก หากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย พ่อแม่ครูอาจารย์ก็ไม่ยอมปล่อยปละละเลยให้เกิดเป็นความเสียหายแก่ศิษย์ อย่างเช่นเหตุการณ์ในคราวนี้

ครั้งหนึ่ง ขณะที่พ่อแม่ครูอาจารย์จะนั่งรถออกไปทำธุระข้างนอก องค์ท่านใช้ให้พระเวรศาลาไปเอากระโถนเล็กมาให้ พระก็ไปหยิบเอากระโถนผิด.. เป็นกระโถนใบใหญ่มา จะด้วยความรีบร้อนไม่ทันคิดให้รอบคอบว่าท่านสั่งอย่างไร หรืออาจคิดเองว่ากระโถนอะไรก็ใช้ได้เหมือนกัน หรือเพราะไม่รู้ขนาดของกระโถน จึงไม่ใส่ใจทำตามที่ท่านบอก ซึ่งโดยปกติกระโถนเล็กจะใช้เป็นกระโถนสำหรับบ้วนคำหมาก ส่วนกระโถนใหญ่จะใช้ทิ้งเศษอาหารในช่วงเวลาฉันตอนเช้า เรียกได้ว่าเป็นของใช้ในกิจที่แตกต่างกัน และพระเณรทุกองค์น่าจะรู้เป็นอย่างดีแล้ว แต่สำหรับพระองค์นี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดจึงหยิบฉวยมาผิด มิหนำซ้ำ ตอนปิดประตูรถถวายท่าน ก็ยังปิด ๆ เปิด ๆ ดูโลเลโลกเลก ต้องปิด ๆ เปิด ๆ ถึงสองทีสามทีกว่าจะล็อคประตูได้ พ่อแม่ครูอาจารย์จึงต้องได้ทั้งดุทั้งปลอบ ดังนี้

“ท่านองค์นี้มันยังไงกัน บอกให้ไปเอากระโถนเล็ก ก็ไปเอากระโถนใหญ่มา ปิดประตูรถก็ปิดตั้งสองทีสามที ยังปิดไม่เข้า ทำไมจะเซ่อซ่าเอานักหนา การทำข้อวัตรปฏิบัติครูบาอาจารย์มันต้องได้ศึกษาคิดอ่านให้รอบคอบถึงหน้าที่ การงานที่เกี่ยวข้องในทุกด้านที่ตนเองต้องกระทำ เพื่อปฏิบัติหน้าที่นั้น ๆ ให้เหมาะสมและถูกกับอัธยาศัยของครูบาอาจารย์ ไม่ใช่ทำแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ใช้ความคิดความอ่าน อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ขาดความเอาใจใส่ในกิจการงานที่ควร ย่อมไม่สมควรแก่นักปฏิบัติผู้มุ่งหวังความหลุดพ้น

และอีกกรณีหนึ่ง ขณะที่องค์ท่านกำลังจะเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้ากุฏิ ระหว่างนั้นโยมได้นำน้ำปานะมาถวายอย่างรีบร้อนตรงประตูด้านคนขับ โดยยืนอยู่และได้ยื่นถวายพระ.. ที่นั่งอยู่บนรถด้านซ้ายของคนขับด้วยความเร่งรีบ องค์ท่านเห็นกิริยาเหล่านั้นในท่ามกลางผู้คนมากมาย พอองค์ท่านขึ้นนั่งบนรถ ก็เอ็ดขึ้นเลยว่า
“พระรับประเคนไม่มีธรรม ไม่มีวินัย เราดูไม่ได้นะ.. เอาลงไป รับประเคนใหม่


สาเหตุที่โดนดุ ก็เนื่องจากกิริยาที่โยมยื่นปานะถวายพระนั้น.. เป็นอาการขาดความเคารพ พระก็ยังไปรับเสียอีก จะกระทำด้วยความรีบร้อนหรืออย่างไรก็แล้วแต่.. โยมก็ควรน้อมเข้ามาถวาย ซึ่งก็อยู่ในองค์ประเคน ๕* ตามพระวินัยนั่นเอง หากว่าโยมประมาท ขาดความรอบคอบ .. พระก็ควรบอกกล่าว ซึ่งองค์ท่านได้พยายามพร่ำสอนพระโดยตลอด.. เกี่ยวกับการสงวนรักษาพระธรรมวินัย

อีกเหตุการณ์หนึ่ง มีหมอเส้นมาจับเส้นถวาย และได้ขอให้องค์ท่านนั่งขัดสมาธิเพื่อจะจับเส้นตะโพก องค์ท่านจึงพูดขึ้นว่า “นั่งสมาธิจับเส้น เราไม่ค่อยสนิทใจ ถ้านั่งขัดสมาธิก็นั่งภาวนาไปเลย

อีกคราวหนึ่ง องค์ท่านได้รับนิมนต์ไปรับผ้าป่าในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร ทางวัดได้จัดที่นอนจับเส้นไว้หน้าธรรมาสน์ของ หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป องค์ท่านเลยดุขึ้นว่า “พระไม่ดูธรรม ดูวินัย ไม่รู้เหรอ อาวุโสภันเต มาปูหน้าหลวงปู่จันทร์ศรีได้อย่างไร ธรรมวินัยอยู่ตรงไหน.. องค์ศาสดาอยู่ที่นั่น ย้ายออกไปที่อื่น”

=======================

องค์ประเคน ๕ ประกอบด้วย

๑. ของที่ประเคนต้องไม่ใหญ่โตและหนักเกินไป (เพราะต้องยกให้พ้นจากพื้น)

๒. ผู้ประเคนต้องอยู่ในหัตถบาส (ช่วงแขนห่างจากพระประมาณ ๑ ศอก)

๓. ผู้ประเคนน้อมสิ่งของที่จะประเคนนั้นด้วยมือก็ได้ หรือเกี่ยวเนื่องด้วยกายก็ได้ เช่น ใช้ทัพพีตักถวาย

๔. ผู้ประเคนน้อมสิ่งของที่จะประเคนนั้นเข้ามาด้วยอาการเคารพนอบน้อม

๕. สำหรับผู้ชาย พระรับประเคนด้วยมือ แต่ถ้าผู้หญิง พระจะใช้ผ้าทอดรับ ใช้บาตรหรือจานแทน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-07-2020 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา